เปิดบ้าน ‘จ๊ะจ๋า พริมรตา’ เตรียมฮุบสมบัติสามีกว่า 100 ล้าน
ได้สามีดีจนผู้หญิงทั้งโลกอิจฉา!
เปิดบ้าน ‘จ๊ะจ๋า พริมรตา’ เตรียมฮุบสมบัติ ‘จิ๊บ วสุ’ ขึ้นเป็นช้างเท้าหน้า
นับวันความรักยิ่งเบ่งบานความหวาน สำหรับคู่สามี-ภรรยา จ๊ะจ๋า พริมรตา กับ จิ๊บ วสุ และสิ่งที่ฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิงนั้น
ดูเหมือนว่าจะทำเอาสาวๆ ทั้งประเทศต้องอิจฉาเธออย่างแน่นอน จนมีข่าวลือว่าเตรียมยึดสมบัติสามี ซึ่งล่าสุด จ๊ะจ๋า
ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ดราม่าเรื่องนี้ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา พร้อมย้อนเล่าเส้นทางรักตลอด 12 ปี
เราเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงทั้งโลก ? “มีคนเคยบอกเราเหมือนกันว่าทำบุญมาด้วยอะไร ทำยังไงถึงได้เป็นแบบนี้ พอเราได้ฟังสิ่งที่เรารู้สึก เราดีใจแทนพี่จิ๊บ
เพราะถ้าเขาไม่ได้เป็นคนที่เจ๋งจริงคงไม่มีใครอิจฉาเรา พอเราได้รู้จักเขาเราก็รู้ว่าเขามีโปรไฟล์แบบไหน เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติเป็นนักการทูต รวมไปถึงเป็นที่รู้จักของคนในวงการ”
ได้แต่งงานบนเครื่องบิน ? “เราได้จดทะเบียนสมรสบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นไอเดียของเขา พอเราคบกันมาระยะหนึ่งแล้วมันถึงเวลาที่จะต้องเป็นเรื่องเป็นราว
เพราะคุณแม่ของพี่จิ๊บก็ถามมา ซึ่งเราก็ขอข้ามขั้นการจัดงานแต่งงานไปก่อน มาจดทะเบียนสมรสเลย ซึ่งเราเอาแพลนที่สองขึ้นมาก่อน เพราะมันติดโควิด”
“จึงเป็นเรื่องง่ายและใช้เวลาไม่กี่นาที เพราะเวลาอยู่ในเครื่องบินเขาก็จำกัดจำนวนคนเลยไม่มีแขก ซึ่งมันมีเหตุผลเพราะชีวิตของเราเป็นการเดินทาง
เลยขอเริ่มต้นบนเครื่องบิน ซึ่งเรามองว่าเป็นความคิดที่สุดยอดมาก เป็นการเดินทางไปที่หัวหิน เป็นบรรยากาศที่เราจะจดจำไปอีกนานแสนนาน
ทุกครั้งมีเรื่องไม่พอใจหรือโกรธอะไร และภาพนี้มันโผล่ขึ้นมาทำให้เราลืมเรื่องอึดอัดใจไปเลย” วาเลนไทน์ถูกเปย์ด้วยตัง 12 ล้าน ?
“ซึ่งเราจดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ปรากฏว่ารถคันนี้ขอสั่งทำมา เหตุผลหลักคือรถคันนี้เป็นรถสีชมพูที่สั่งทำมา แล้วก็สลักชื่อเรากับเขา
ซึ่งเป็นลายมือของเขาเอง ซึ่งเขามีความตั้งใจอยากจะให้เราขับรถคันนี้ไปที่ร้านดอกไม้ เราก็กรี๊ดตาแตกเลย สาเหตุที่ตัวตังต้องเป็น 12 ล้าน เพราะเป็น 12 ปีที่เรารักกัน”
มีข่าวว่าเราฮุบสมบัติสามี ? “หนูไม่ได้สนใจเลย หนูสร้างของหนูเอง สิ่งที่หนูฮุบและมีความสุขมากที่สุดนั่นก็คือในการฮุบหัวใจของเขา
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถเอาไปได้นั่นคือร่างกายของเขา เพราะเขาได้บริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว รวมถึงตัวเราด้วย เรารู้สึกว่าอันนี้เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่มาก
เราเองเคยบริจาคอวัยวะก่อนหน้าที่จะรู้จักเขา ก็บริจาคมาเรื่อยๆ เท่าที่จะบริจาคได้ เหลือร่างกายอย่างเดียวที่ยังไม่ได้ให้ ซึ่งตอนนี้ได้บริจาคแล้ว เราดีใจมากพอได้มาบริจาคร่างกายร่วมกันกับพี่จิ๊บ”
