อึ้ง ผู้จัดการ ‘เอส กันตพงศ์’ ออกมาเคลื่อนไหว ยืนยันอาการแบบนี้
พาดหัวข่าว อึ้ง ผู้จัดการ ‘เอส กันตพงศ์’ ออกมาเคลื่อนไหว ยืนยันอาการแบบนี้
แฟนๆและชาวไทยทั่วประเทศยังคอยเฝ้าติดตามข่าวอาการป่วยของ “เอส กันตพงศ์” พระเอกคนดังที่ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
หลังหนุ่มเอสวูบหมดสติที่งานอีเวนท์ และได้เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาล แพทย์ยังคงดูแลอาการวันต่อวัน ซึ่งทางด้านภรรยา ยังออก
มาอัพเดตภาพและอาการของเอสอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามตลอดวันที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือออกมาว่า เอสอาการดีขึ้นและรู้สึกตัว มีปฏิกิริยา
ตอบสนองแล้ว โดยอ้างว่าได้รับข้อมูลมาจากผู้จัดการส่วนตัวของเอส ต่อมาล่าสุดทางด้านผู้จัดการเอสกันตพงศ์ ได้ออกมาโพสต์ผ่านอินสตราแกรม
โดยระบุว่า จากที่สื่อมวลชนบางสำนักได้อ้างอิงว่ามีข่าวอัพเดตอาการของเอสในทิศทางต่างๆซึ่งทราบมาจากทางผู้จัดการส่วนตัวนั้นปอยขอบอก
ตรงนี้นะคะว่า ปอยยังไม่เคยให้สัมภาษณ์ใดๆ ได้แต่บอกว่าให้ติดตามอาการจากภรรยาของเอส ซึ่งปอยยังคงยืนยัน ว่าการให้ข่าวขอให้เป็นสิทธิ์
ของทางครอบครัวน่าจะดีกว่านะคะ ก่อนหนา้นี้ นพ. ธนีย์ ธนียวัน อาจารย์หมอ วิเคราะห์อาการป่วยพระเอกดัง เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ หลังวูบหมดสติ
กลางอีเวนต์ดีเบตเลือกตั้งจนต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และดูอาการวันต่อวัน ซึ่ง คริสติน่า ภรรยาของเอส ได้ออกมาเผยเกี่ยวกับอาการป่วยของสามีว่า
ตอนที่วูบหมดสติไปนั้น เอสหัวใจหยุดเต้นกะทันหันมีการทำ CPR จนกลับมาได้ ขณะทางแพทย์ระบุว่าเขามีอาการหัวใจอักเสบ โดย ช่องยูทูบ Doctor Tany
ของ นพ. ธนีย์ ธนียวัน ระบุว่า คนที่ไม่มีอาการอะไรมาก่อน อายุ 36 แล้วจู่ ๆ หัวใจเต้นผิดปกติ ที่วูบหมดสติ หมอคิดว่าต้องเป็นการเต้นผิดปกติของหัวใจ
น่าจะเป็นหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ ทำให้เลือดไม่สามารถบีบออกไปได้ เลือดค้างหัวใจ ไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะสมองจึงเกิดอาการ
หมดสติขึ้น ในการช่วยเหลือชีวิต นอกจากการปั๊มหัวใจ เพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองได้ จะต้องมีการช็อกไฟฟ้า เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นด้วยจังหวะปกติแล้วทำไมจู่ ๆ
หัวใจเต้นผิดปกติได้ เกิดได้ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง มีทั้งที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่ไม่รู้ตัว แล้วมาเกิดอาการตอนอายุช่วงนี้และยังมีสาเหตุอื่นอีก หมอได้ยินคำว่า
“หัวใจอักเสบ” ซึ่งที่เจอบ่อยสุดเกิดจากไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่น ๆ ถ้าเกิดจากไวรัส จะมีอาการนำมาก่อน แต่คนอาจไม่รู้ตัว เช่น รู้สึกเพลีย ๆ
เจ็บแน่นหน้าอก แต่เป็นไม่มาก บางคนอาจคิดว่าเพราะทำงานเหนื่อยเกินไป บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นกรดไหลย้อน พวกนี้เป็นอาการนำของไวรัสที่ทำให้
เกิดหัวใจอักเสบได้ แต่มันบอกลำบากมาก เพราะมันเหมือนแค่เรารู้สึกเหนื่อยธรรมดา แล้วจู่ ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา ถ้าจริง อาจจะมีไวรัสเข้าไปติดในหัวใจก่อน อย่างโควิด
ไวรัสก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้มากกว่าตัววัคซีนอีก ถ้ามันอักเสบก็อาจมีค่าการอักเสบในเลือดสูงขึ้น ก็จะตรวจค่าต่าง ๆ ที่พอบอกได้ว่ามีการอักเสบของหัวใจและ
ทั่วร่างกาย ซึ่งก็ต้องใช้ร่วมกับเอนไซม์ที่ออกมาจากหัวใจในการบอก แต่เอนไซม์ก็อาจจะออกมาจากการปั๊มได้จึงไม่สามารถวิเคราะห์ได้มากไปกว่านี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูล