จากกรณีที่วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วัดเขาแก่อายุกว่า 800 ปี แต่ยังไม่มีโบสถ์ ทางคณะสงฆ์ และพุทธบริษัทจากทิศทั้ง 4 ได้จัดกิจกรรมระดมทุนก่อสร้างโบสถ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีคู่แฝดพระเอกนักบุญ-บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นางแพรวพิสัย พจนประพันธ์ คหบดีใจบุญและคณะจากกรุงเทพมหานคร ช่วยสนับสนุน จนการก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองคืบหน้าไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์
และทางวัดได้กำหนดจัดงานประเพณี “แห่ผาห่มหลวงพ่อองค์ใหญ่ วัดเขาพระทอง อายุกว่า 800 ปี เนื่องใจวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก และทอดผ้าป่าสามัคคี รวมทั้งการจัดคอนเสิร์ตมหาบุญ มหากุศล เพื่อระดมทุนการสืบทอดต่อยอดสร้างโบสถ์ ระหว่างวันที่ 3-14 มิ.ย. 2566
ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมนางแพรวพิสัย พจนประพันธ์ คหบดีใจบุญและคณะจากกรุงทำมหานคร ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบอาคารโรงทานพระเวสสันดรชาดก ,เบิกเนตรพระพุทธเมตตามหาโลกนาถมุนีศรีวิชัย ที่เพิ่งนำขึ้นประดิษฐานบนแท่นในโบสถ์ที่กำลังก่อสร้างก่อนที่จะก่อสร้างในส่วนของหลังคาโบสถ์ตามลำดับต่อไป รวมทั้งการทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมีพระราชปริยัติเวที “เจ้าคุณเจือ” เจ้าอาวาสวัดมุมป้อม ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (มหานิหาย) เป็นประธานสงฆ์
อย่างไรก็ตามในช่วงการประกอบพิธีเบิกเนตรพระพุทธเมตตา พระประธานในโบสถ์ โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วภาคใต้ 16 รูปนั่งปรกอธิฐานจิตปลุกเสพ และเนื่องจากโบสถ์ยังไม่มีหลังคาและกั้นฝาข้างทั้ง 4 ด้าน โดยทางวัดได้นำผ้าใบมาขึงด้านบนแทนหลังคาเพื่อกันแดดกันฝนในระหว่างการประกอบพิธีท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องลงมาอย่างแผดร้อนต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่คับแคบ ในพิธีมีเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นางแพรวพิสัย พจนประพันธ์ คหบดีใจบุญและคณะจากกรุงเทพมหานคร
และมีพระภิกษุสงฆ์แลพะผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีบนโบสถ์เพียง 50 รูป/คนเท่านั้น ส่วนพุทธบริษัทอีกหลายร้อยคนต่างหาจุดที่เหมาะสมใต้ร่มไม้รอบ ๆ โบสถ์นั่งหรือยืนพนมมือไหว้อย่างเลื่อมใสศรัทธา โดยมี“พราหมณ์เล็ก เขาเหมน” เป็นเจ้าพิธี ฯอ่านโองการสวรรค์เชิญเทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตปกปักรักษา ดูแลในบริเวณวัดเขาพระทอง และทั่วสากลโลก เป็นประจักษ์ พยานรับรู้ถึงความตั้งใจของพุทธบริษัททั้งหลายในการร่วมบริจาคทรัพย์สินก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง
ปรากฏว่าในขณะที่“พราหมณ์เล็ก เขาเหมน” อ่านโองการอัญเชิญเทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มารับรู้และช่วยอำนวยอวยพรให้คณะพุทธบริษัทช่วยกันเป็นสะพานบุญระดมทุนก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ได้เกิดลมพายุพัดกรรโชกอย่างรุนแรง จนผ้าใบที่ผูกด้านบนเพื่อใช้แทนหลังคาและผ้าสีที่ผูกประดับประดาในพิธีรวมทั้งเครื่องบวงสรวงเซ่นไหว้ถูกลมพายุพัดถล่มอย่างหนักทั้ง ๆ ที่แสงแดดส่องลงมาอย่างร้อนแรง ทำให้ผู้ที่อยู่ในพิธีต่างหวั่นเกรงว่าลมพายุจะพัดจนผ้าใบหลังคาจะฉีกขาดและพลัดตกหล่นลงมาในบริเวณพิธี
อีกทั้งเกรงว่าผ้าสีที่ผูกประดับประดาในพิธี และเครื่องบวงสรวงเซ่นไหว้ถูกลมพายุพัดอีกขาด ตกหล่น จนเสียหายเสียพิธีได้ จนถึงช่วงที่นิมนต์พระครูพิศาลวิหารวัตร “พ่อท่านบุญให้” สุดยอดพระเกจิผู้สมถะและมีแต่ให้ ไปทำพิธีเบิกเนตรพระพุทธเมตตา ฯ กลับมีกลุ่มเมฆก้อนใหญ่เคลื่อนมาบดบังดวงอาทิตย์ เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าเหนือโบสถ์ที่กำลังก่อสร้างและเป็นสถานที่ประกอบพิธี ได้ปรากฏกลุ่มเมฆสีขาว สีเทาดำ เคลื่อนไปบังดวงอาทิตย์ และเมื่อเมฆเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ ก็ปราฏดวงอาทิตย์และก้อนเมฆสีรุ้งลักษณะมีคล้ายเทวดาหรือฤาษีปรากฏขึ้นอย่างสวยงามตระการและจ้องมองลงมาเบื้องล่างเป็นที่แตกตื่นฮือฮาแก่ผู้พบเห็นจำนวนมาก
จนเมื่อพิธีเบิกเนตรเสร็จสิ้นก้อนเมฆเคลื่อนแยกออกจากกันและเปลี่ยนเป็นสีขาว ด้านบนสุดปรากฎเป็นพุทธรูปปางสมาธิสีขาวคล้ายกับพระพุทธเมตตาที่ประดิษฐานในโบสถ์ปรากฏให้เห็นอย่างเดนชัดนานกว่า 3 นาที ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ต่างยกมือท่วมหัวและกล่าวสาธุดัง ๆ พร้อมกัน 3 ครั้ง”
โดยพราหมณ์เล็ก เขาเหมน” เป็นเจ้าพิธี ฯกล่าวว่าการประกอบพิธี ฯของตนที่ผ่าน ๆมามักจะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรด แต่ในครั้งนี้รู้สึกๆได้ว่าเกิดปรากฏการณ์เหนือกว่า “พระอาทิตย์ทรงกรด” แต่เป็นดวงอาทิตย์สีรุ้งและมีลักษณะรูปร่างคล้ายเทพยดาหรือฤาษีปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน อีกทั้งในช่วงหลังเมื่อก้อนเมฆเคลื่อนตัวแยกออกจากกันกลับปราฏเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสีขาวนวล คล้ายพระพุทธเมตตา ฯ ทุกคนที่ร่วมในพิธีต่างเห็นด้วยตาของตัวเอง
ตนจึงมั่นใจว่าการก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทั้งหลายรับรู้ จึงแสดงอิทธิฤทธิ์ บารมีและปาฏิหาริย์ให้เห็นเหมือนต้องการสื่อและอำนวย อวยพรอวยชัยให้พุทธบริษัททั้งหลายช่วยกันก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองแล้วเสร็จหรือสำเร็จตามความตั้งใจของพุทธบริษัททุกคน
ในขณะที่คนเฒ่าคนแก่ที่ร่วมในพิธีและประสบพบเห็นปรากฏการณ์ทั้งหมดด้วยสายตาตัวเอง หลายคนถึงกับน้ำตาไหล รองให้ด้วยความดีใจ และมั่นใจว่าอีกไม่นานโบสถ์วัดเขาพระทองจะก่อสร้างแล้วเสร็จ สวยงามตระการตา สมกับที่ตั้งตารอคอยมาหลายหลายสิบปี และก่อนหน้านี้หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชีวิตนี้จะมีบุญได้เห็นโบสถ์วัดเขาพระทองก่อนสิ้นลมหายใจหรือไม่ แต่เมื่อมาประสบพบเจอกับปรากฏการณ์ในครั้งนี้ทำให้มั่นใจและมีกำลังใจที่จะได้เห็นโบสถ์ก่อสร้างแล้วเสร็จอย่างแน่นอน ถึงจพตายก็ตายตาหลับ
ข่าวโดย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช
เรียบเรียง มุมข่าว by siamnews
