ต้องบอกเลยว่าเป็นสาวที่สร้างความอิมแพค ไปแทบทั่วทั้งโลกเลยก็ว่าได้เลยนะครับ สำหรับ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK เพราะต้องยอมรับเลยนะครับว่านาทีนี้
ไม่ว่าลิซ่าจะทำอะไรหรือขยับตัวไปไหน สิ่งของหรือสถานที่ที่ไอดอลสาวคนนี้ไป ก็มักจะกลายเป็นที่นิยมในเวลาอันรวดเร็ว สร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจที่มีข่าวลือออกมาบ่อยครั้ง
ล่าสุด โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ที่เผยให้เห็นสาวลิซ่า BLACKPINK อยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ภายหลังถูกเปิดเผยว่าเป็น เฟรเดอริค อาร์โนลด์ ซีอีโอหนุ่มวัย 28 ปี แห่ง TAG Heuer ลูกชายของเจ้าของกลุ่มธุรกิจ LVMH
ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Tiffany & Co., Dior, Fendi, Kenzo, Sephora, Princess Yachts รวมไปถึง Celine และ Bulgari ที่ลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้อยู่ด้วย
อย่างไรก็ดี ชาวโซเชียลพบลิซ่า และเฟรเดอริคอยู่ด้วยกันในปารีส ภาพที่ออกมาทำให้ต่างตั้งข้อสงสัยว่า ทั้งสองคนกำลังออกเดทกันอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีคลิปที่หลุดออกมา
เผยให้เห็นว่าสาวลิซ่ามีความสุขมาก โดยเจ้าของคลิปที่เป็นคนโพสต์คนแรก ได้โพสต์พร้อมข้อความว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ลิซ่ากำลังเดตอยู่กับลูกชายของกลุ่มธุรกิจที่มั่งคั่งที่สุดในโลก
ซึ่งข่าวลือการเดตยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด แถมต้นสังกัดก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงใด ๆ ทว่าเหล่าแฟน ๆ ก็พากันคอมเมนต์ถึงเรื่องนี้เพียบ โดยหลายคนแสดงความยินดีให้กับพวกเขา และคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของทั้งคู่ด้วย ขณะเดียวกัน ก็มีฝ่ายที่มองว่าทั้งคู่ไม่น่าออกเดตกัน เพียงแค่ทำงานร่วมกันเท่านั้น
เช่นเดียวกับเพจชื่อดัง อย่าง ทีวีไทยเล่นใหญ่ไปไหน ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นข่าวลือออกเดทว่า เคลียร์คลิปต้นเหตุก่อน น้องไม่ได้พิงไหล่ใคร น้องพิงเสา เราไม่เห็นแม้แต่หน้าผู้ชายด้วยซ้ำ
ข่าวลือจริง ๆ มีมานานแล้ว เพราะเฟรดตามเทคแคร์แทบทุกงานที่ลิซ่าไป แต่กับ จีซู ไปแค่งานเดียว และโรเซ่ ไม่เคยไป ทั้งที่อยู่ในเครือเดียวกัน ซึ่งบางทีก็เป็นได้ว่าแบรนด์ของลิซ่านั้น อยู่ภายใต้การดูแลของเฟร้ดเป็นพิเศษก็ได้นะ
จากนั้น เรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่กลับไม่วายถูกชาวเน็ตรายหนึ่งคอมเม้นต์ว่า แต่อย่าลืมนะว่าน้องลิซ คือสาวอีสาน ซึ่งสาวอีสานโดยทำเนียมแล้ว ส่วนใหญ่ก็จับฝรั่งรวย ๆ เป็นสามีกันทั้งนั้น อีกอย่างถ้ามีแฟนมีสามีรวยขนาดนี้จะแคร์ใครอีกทำไม ก็ไม่แปลกที่… แต่ก็ดีแล้ว คบแต่งงานไปเลยก็ดี บลิ๊งค์และพวกชิปลิซกุกจะได้เลิกเอามายุ่งกับจองกุก
งานนี้ เล่นเอาทวิตเตอร์ลุกเป็นไฟเลยทีเดียว มีชาวโซเชียลเข้ามาตอบกลับเม้นต์ดังกล่าวเพียบ โดยมองว่า ขนาดลิซ่าใช้ความสามารถของตนเอง จนประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้ ก็ยังไม่พ้นคำดูถูกว่าคนอีสานเกาะผู้ชายกิน ไม่รู้จะเหยียดกันทำไม คนไทยด้วยกัน นี่มันปี 2023 แล้ว ไม่น่ามีความคิดแบบนี้ แค่ด้อยค่าคนที่สำเร็จมาก ๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง
เรียบเรียง siamnews
