เศรษฐา เผยแล้ว เงินดิจิทัลแจกภายใน 1 ก.พ.แน่นอน ผ่านแอป

Uncategorized

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลมีกำหนดแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.66 พร้อมเดินหน้านโยบายต่างๆ โดยนโยบายเศรษฐกิจหลักของรัฐบาล คือ การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของประชาชน ด้วยการเตรียมดันโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และโครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี

สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ประมาณว่าต้องใช้วงเงินประมาณ 5.6 แสนล้านบาท เบื้องต้นวางแนวทางไว้ว่า จะดำเนินการผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่กว่า 40 ล้านคน โดยช่วงที่ผ่านมามีการเชิญผู้บริหารธนาคารกรุงไทยเข้าหารือแนวทางแล้ว โดยต้องเพิ่มฟังก์ชั่นของโครงการแจกเงินดิจิทัล เข้าไปในแอพเป๋าตัง คล้ายกับที่ทำโครงการคนละครึ่ง ในช่วงที่ผ่านมา

โดยจะเป็นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้แก่ประชาชนในงวดเดียว เพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกำหนดให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน ทั้งนี้ จะเป็นในรูป e-Money โดยผู้ประกอบการที่เป็นผู้รับเงินในทอดแรกๆ จะไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ แต่ต้องนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้า-วัตถุดิบ เพื่อมาค้าขายต่อ เป้าหมายเพื่อให้เกิดพายุหมุนในระบบเศรษฐกิจ เช่น แม่ค้าข้าวหนียวหมูปิ้ง เข้าโครงการรับ อีมันนี่เข้าถุงเงิน จะไม่สามารถเอาเงินสดออกมาได้โดยตรง โดยจะต้องเอาเงินที่ได้รับไปใช้ซื้อข้าวเหนียว หมู เครื่องปรุงต่างๆ เพื่อให้เงินที่ใส่เข้าไปหมุนในระบบหลายรอบ อย่างไรก็ดี จะมีการกำหนดคุณสมบัติ หรือเงื่อนไขบางอย่างสำหรับผู้ประกอบการที่จะสามารถนำเงินสดออกมาได้ โดยวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง

เผยถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า เราทำงานเต็มที่อยู่แล้ว และประสานกับหน่วยงานราชการทุกหน่วยงาน เพื่อให้สามารถออกมาได้โดยเร็ว เป็นการจ่ายเงินเพียงหนเดียว ณ วันนี้เราคิดว่าจะทำให้ได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.67 เราจะพยายามทำให้ได้ เราไม่มีเวลาฮันนีมูน พรุ่งนี้ก็ทำงานต่อ อย่างไรก็ดี จากที่ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย กำหนดรัศมีการใช้จ่าย 4 ก.ม.ของการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บา จากที่อยู่ทะเบียนบ้าน ก็มีข้อเสนอของทีมกระทรวงการคลัง ให้ขยายรัศมีเพิ่มขึ้น เพราะจากการศึกษาพบว่าระยะทาง 4 ก.ม.ในต่างจังหวัดบางพื้นที่ไม่มีร้านค้า หรือมีน้อยมากอาจเป็นอุปสรรคของประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด

ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตามที่วางแผนไว้เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้ ในช่วงที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังไม่บังคับใช้ก็คือ ต้องใช้มาตรการกึ่งการคลัง โดยยืมเงินรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินจากธนาคารของรัฐมาใช้ไปก่อน โดยรัฐบาลจะตั้งงบฯ ชดเชยคืนให้ในภายหลัง ซึ่งจะมีกรอบวงเงินที่ใช้ได้ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดว่า ยอดคงค้าง หรือภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการ ต้องไม่เกิน 32% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้ มาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ กำหนดว่า การจะใช้เงินตามแนวทางดังกล่าว

ต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ อาทิ 1) ฟื้นฟูหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) เพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือ 3) ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย หรือการก่อวินาศกรรม ตอนนี้วงเงินตามมาตรา 28 ถ้าเป็นตามกรอบของปีงบประมาณ 2566 ก็จะเหลือแค่ประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งไม่พอแน่นอน แนวทางที่ทำได้ก็คือ ต้องขยายกรอบวงเงินตรงนี้ จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 32% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลต้องการวงเงินเท่าไหร่ จะขยายเป็นกี่เปอร์เซ็นต์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *