กลายเป็นเรื่องสะเทือนวงการตำรวจ หลัง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ที่ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงที่บ้านกำนันนก จ.นครปฐม ทั้งที่มีตำรวจอยู่ร่วมในงานกว่า 20 นาย แต่กลับไม่มีใครจับตัว นายหน่อง คนร้าย กระทั่งถูกวิสามัญ ขณะเดียวกันตำรวจทั้ง 25 นายก็ถูกสอบสวนในเรื่องดังกล่าวด้วย ก่อนนำมาสู่การออกหมายจับ 6 ตำรวจ และสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน อีกหลักฐานสำคัญในคดีนี้ คงเป็นเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดบ้านกำนันนกที่ถูกถอดหายไปในคืนวันเกิดเหตุ โดยตำรวจควบคุมตัวนายโบ๊ท เจ้าหน้าที่เรือนจำใน จ.ราชบุรี ที่เป็นคนโยนเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดทิ้งบ่อน้ำ ก่อนนำตัวมาชี้จุดและหาหลักฐานสำคัญเพิ่มเติม
โดยมีรายงานว่า นายโบ๊ท ทิ้งเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไว้ 2 จุดคือ บริเวณหมู่ 1 หัวสะพานข้ามคลอง และหมู่ 5 หลังวัดคลองตาก้อง โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาอยู่นาน ก่อนพบเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดบ้านกำนันนกที่จมอยู่ใต้คลองขึ้นมาได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งหลักฐานสำคัญ อย่างเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดที่งมขึ้นมาได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบพร้อมเร่งกู้ภาพในเซิร์ฟเวอร์วงจรปิด โดยเป็นหลักฐานสำคัญอย่างภาพในคืนวันเกิดเหตุภายในบ้านพักกำนันนก รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ รับเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดมาตรวจสอบและกู้ภาพ คาดจะใช้เวลาไม่นานในการกู้ภาพในคืนเกิดเหตุ เบื้องต้นจะสามารถกู้ภาพทั้งหมดได้อย่างแน่นอน แม้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดจะจมน้ำ
แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทีมสืบสวนเชื่อว่าจะสามารถกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดได้ โดยภาพในเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดจะเป็นภาพภายในบ้านของกำนันนก โดยเฉพาะจุดที่ตั้งโต๊ะจีนและเป็นจุดเกิดเหตุที่สารวัตรแบงก์โดนยิง หากกู้ภาพจากเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดได้ จะเป็นหลักฐานสำคัญว่าแท้ที่จริงแล้ว ใครสั่งนายหน่องให้ลั่นไกหรือไม่ และก่อนเกิดเหตุกำนันนกกับสารวัตรแบงก์มีปัญหาอะไรกัน รวมถึงคดีนี้มีใครเกี่ยวข้องและมีตำรวจนายใดยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้อีก ภาพในเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดจึงถือเป็นหลักฐานสำคัญของคดี
