เรื่องใหญ่ได้เงินดิจิตอล 10,000 ก็ใช้ไม่ได้ หลังร้านค้ารวมตัวประกาศไม่ไม่ขอเข้าร่วมโครงการด้วยแล้ว

Uncategorized

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน วันที่ 13 ก.ย.2566 จะมีการเสนอเรื่องที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาให้เห็นชอบหลักการในทันที ประกอบด้วย การเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต การพักหนี้เกษตรกร ที่จะพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย การลดราคาพลังงาน ประกอบด้วย ค่าไฟฟ้า และราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาเรื่องการยกเว้นวีซ่าเป็นการชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไฮซีซันนี้ด้วย

ทั้งนี้ จากที่รัฐบาลจะดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อแจกเงินประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท จำนวน 56 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณราว 560,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าของแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ โดยจะใช้แหล่งเงินจากธนาคารออมสินมาดำเนินการก่อน เนื่องจากธนาคารออมสิน ถือเป็นแหล่งเงินทุนของรัฐและพร้อมจะดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยปัจจุบันธนาคารออมสินมีเงินฝากอยู่ราว 2 ล้านล้านบาท

หลังจากนั้น รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณทยอยใช้คืนให้ ส่วนแผนการใช้เงินคืนนั้น อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการชำระเงินคืนให้ธนาคารออมสิน โดยลักษณะนี้จะคล้ายกับกองทุนหมู่บ้านในอดีต แต่วงเงินอาจจะแตกต่างกัน โดยกองทุนหมู่บ้านใช้เงินเพียง 79,000-80,000 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลประเมินว่าเมื่อมีการแจกเงิน 10,000 บาท ให้ประชาชนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการแจกให้ครั้งเดียว แต่เชื่อว่าประชาชนเมื่อได้รับเงินแล้วจะทยอยนำไปใช้จ่าย เพราะฉะนั้น การเบิกจ่ายเงินของรัฐบาลจะเป็นการเบิกจ่ายตามจริง ไม่ได้เบิกจ่ายครั้งเดียวทั้งหมด 560,000 ล้านบาท และหวังว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนกลับเข้ารัฐในรูปแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) และส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้า

ซึ่งตั้งเป้าไว้จะขยายตัว 5% ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของมาตรการพักหนี้เกษตรกรนั้น ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เสนอแผนการพักหนี้ 3 ปี ลูกค้าที่เป็นเกษตรกรให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว โดยจะเน้นกลุ่มลูกหนี้ที่มีวงเงินหนี้ตั้งแต่ 100,000-1 ล้านบาทเท่านั้น โดยจะพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อให้เกษตรกรนำเงินที่จะนำมาชำระเงินกู้ ธ.ก.ส.ไปต่อยอดสร้างอาชีพ สร้างรายได้ใหม่ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของ ธ.ก.ส.อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท โดยลูกหนี้ส่วนใหญ่กว่า 95% เป็นเกษตรกรรายย่อยที่กู้เงินตั้งแต่ 100,000-1 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินกู้มากกว่า 1 ล้านบาท ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี

สำหรับการชำระหนี้ของเกษตรกรรายย่อยนั้น จะเป็นตามรอบฤดูกาลผลผลิตทางเกษตรกร และจะชำระปีละครั้ง เช่น กู้ 100,000 บาท บางรายจะชำระปีละครั้ง ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยงวดละ 15,000 บาท หรือบางราย กู้มา 100,000 บาท เมื่องวดชำระเงินกู้ จะชำระเงินกู้และดอกเบี้ยทั้งหมด หลังจากนั้น 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนถัดมา จะกลับมายื่นกู้วงเงินเดิมอีกครั้ง ซึ่งรูปแบบการกู้เงินยืมเงินของเกษตรกร จะแตกต่างจากธนาคารอื่นๆ ทำให้ ธ.ก.ส.ต้องปรับรูปแบบการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า

ซึ่งมีทั้งรูปแบบชำระเงินกู้เป็นรายเดือนและรายปี ส่วนการจัดทำงบประมาณปี 2567 นั้น นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณจะเสนอที่ประชุม ครม.นัดแรก ในวันที่ 13 ก.ย. 2566 เพื่อให้เห็นชอบปฏิทินการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 โดยจะมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณ เหลือ 10 แผนงาน โดยหลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้ว ทาง 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่

กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงบประมาณจะประชุมร่วมกันโดยเร็ว ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ส่วนการจัดทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต หรือแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล จะนำเงิน มาจากไหนจะชัดเจนในการประชุม ครม.วันที่ 13 ก.ย.นี้เช่นกัน โดยกระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อขอความเห็นชอบในหลักการ.

ต่อมามีผู้ใช้ TikTOk รายหนึ่งได้โพสต์คลิประบุข้อความว่า ไม่ร่วมเงินดิจิตอล 10,000 สวน นายกฯ หลังให้ใช้ใน 4 ก.ม. โดยในคลิประบุว่า เราโดนรังแกไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วสำหรับโครงการใหม่ เงินดิจิตอล 10,000 บาท เรายืนยันแน่นอนเราไม่ทำ เพราะเราได้รับความเดือดร้อนมาจากกระทรวงการคลังในโครงการเราชนะ เราต้องต่อสู้เราต้องมาขึ้นศาลปกครองเราต้องมาอุทรณ์ เราต้องมาทำทุกอย่างทั้งๆที่เราไม่ได้กระทำผิด เราซื้อขายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ลูกค้าได้สินค้าจากเรา 100 % ไม่มีลูกค้าท่านใดมาร้องทุกข์ว่าไม่ได้รับสินค้าจากเรา แม้แต่คนเดียว ฉนั้นอยากให้รัฐบาลกลับมาหันมามองคนที่เดือดร้อน คนที่เป็นหุ้นส่วน คนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับรัฐบาล ณ วันนี้ที่รัฐบาลร้องขออยากได้ร้านค้ามาร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ เรายินดีเดินเข้ามาแต่วันนี้เราเดือดร้อน

เดือดร้อนที่ต้องหาเงินที่เป็นของๆเรา มาคืนรัฐบาลอีก มันไม่ถูกต้อง ณวันที่เราสมัคร ธนาคารกรุงไทยมาเชิญที่ร้านเลยนะคะ ให้เราขายออนไลน์ได้ เราก็ขายตามสินค้าที่เรายื่นกับธนาคาร แต่วันที่เราเดือดร้อนเราทำหนังสือไปหาธนาคารกรุงไทย ขอดูใบสมัครที่เราติ๊กหัวข้อออนไลน์ได้ ธนาคารไม่มีแม้แต่เยื่อใยที่จะส่งเอกสารนั้นมาให้เราต่อสู้ เราเดือดร้อนมากเราอยากให้นายกทบทวน ยกเลิก เพิกถอนคำสั่ง ในการที่จะเรียกคืนโครงการเราชนะ ถ้าหากว่ามีการยกหรือให้ความเป็นธรรมกับเรา ร้านค้าที่โดนอีกพันกว่าร้าน ยินดีที่จะร่วมโครงการกับท่านแน่นอนค่ะ

คลิป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *