เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลัง นายธนิต โสรัตน์ ประธานคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ นำคณะเข้าพบ เพื่อนำเสนอการขับเคลื่อนแผนดำเนินงานและข้อเสนอแนะจากผลการศึกษา เรื่อง อนาคตตลาดแรงงานภายใต้การเปลี่ยนผ่าน ที่กระทรวงแรงงาน ว่า วันนี้สภาที่ปรึกษาฯ เเนะนำเเละมีข้อเสนอต่างๆ เพื่อหารือว่ามีอะไรที่จะต้องปรับ เเละอะไรจะต้องเร่ง ซึ่งตนเองเเละทีมงานข้าราชการกระทรวงเเรงงาน พร้อมปรับเสริมประสิทธิภาพ
ในส่วนพระราชบัญญัติเกี่ยวกับเเรงงาน หากต้องแก้ไข ก็ต้องไปหารือศึกษาว่าจะทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องของเเรงงานนอกระบบ เช่น ผู้ค้าหาบเร่ เราจะหาวิธีทำอย่างไรให้เขาเข้ามาสู่ระบบให้ได้ สิ่งเหล่านี้สำคัญที่กระทรวงเเรงงานต้องเอากลุ่มเหล่านี้เข้าสู่ระบบประกันสังคมให้ได้ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีได้เเถลงนโยบายก็มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้สอบถามเข้ามา เเละผมก็ได้เเจ้งว่า เราจะเอาเเรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบให้ได้ เเต่ก็ต้องดูความสมัครใจว่าพร้อมเข้าสู่ระบบหรือไม่ ผมคิดว่าถ้าเป็นเเรงงานที่อยู่ในเเพลตฟอร์ม จะเข้าสู่ระบบไม่ยาก เเต่เเรงงานผู้ค้าหาบเร่จะเข้าสู่ระบบ ยาก เพราะยังกังวลเรื่องการเสียภาษี เพราะโดยปกติ กลุ่มนี้ไม่เสียภาษี ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องไปหารือกับกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ว่า เรามีข้อยกเว้นอะไรได้บ้าง นายพิพัฒน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอเกี่ยวกับขึ้นค่าเเรงหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องหารือกับทั้ง 3 ฝ่าย ว่าเราจะนำเสนอรัฐบาลอย่างไร อย่างที่ได้เคยเรียนเบื้องต้น เมื่อเข้ากระทรวงวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาเเล้วว่า ต้องขอดูจนถึงเดือนพฤศจิกายน เพราะต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ค่าเงินเฟ้อ เเละเเต่ละจังหวัดจะขึ้นค่าเเรงขั้นต่ำกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอเกี่ยวกับขึ้นค่าเเรงหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องหารือกับทั้ง 3 ฝ่าย เราต้องดูองค์รวม เราไม่สามารถประกาศทั้งประเทศขึ้นในอัตราเดียวกันได้ เพราะค่าครองชีพในเเต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน ผมต้องให้เจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงานของกระทรวงเเรงงาน ลงสำรวจในพื้นที่เเต่ละจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีค่าเเรงขั้นต่ำไม่เท่ากันอยู่เเล้ว ต้องดูว่าในเเต่ละจังหวัดควรจะขึ้นเท่าไร เป็นอัตราส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละจังหวัดมีอัตราค่าครองชีพอย่างไร เพราะในการสำรวจเมื่อต้นปี 2566 มี 31 จังหวัด ที่ไม่ขอขึ้นค่าแรง เพราะคิดว่าอยู่ได้แล้ว ตรงนี้เป็นสิ่งที่ได้รับข้อมูลมา แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องทำการสำรวจข้อมูลช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อนำมาพิจารณาในเดือนพฤศจิกายนต่อไป เพื่อประกาศในอนาคตเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ในเดือนพฤศจิกายนต้องจบ นายพิพัฒน์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท นั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า นโยบายของพรรคการเมืองอยากให้ได้เท่านี้ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องดูทักษะ (สกิล) แรงงาน ด้วย ถ้าทักษะไม่พอ ก็ต้องพัฒนะทักษะ (อัพสกิล) เพื่อให้ได้ค่าแรงตามที่พรรคการเมืองหาเสียงไว้ ซึ่งระยะเวลาก็จะใกล้เคียงกันกับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ
ทุกอย่างจะต้องประกาศก่อนสิ้นปีแน่นอน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราจะไม่ประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ ส่วนจะได้ค่าแรงขั้นต่ำเท่าไร ต้องขอเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ความชัดเจน นายพิพัฒน์ กล่าว
