จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและคอมมานโด พร้อมหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. พร้อมกับเข้าทำการตรวจค้น 30 จุดเป้าหมายในพื้นที่ 6 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย จากการตรวจสอบเบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในบ้านพัก และปฏิเสธการเข้าตรวจค้น โดยอ้างว่าเป็น รองผบ.ตร. ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้ข้อมูลสั้น ว่า มีตำรวจเข้าตรวจค้น
แต่ตนยังไม่ทราบว่าตรวจค้นเรื่องอะไร และโยงไปเรื่องอะไร แต่ทีมตำรวจที่เข้าตรวจค้น แจ้งว่าไม่ทราบว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักของตน จากนั้นพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เดินทางมาพบพล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้วเพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทราบ วันที่ 25 ก.ย.2566 สำหรับความคืบหน้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านว่า สำหรับกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อมีหมายจับมา ลูกน้องของตนก็ต้องไปชี้แจงต่อศาล ถึงที่มาที่ไปของเงินว่าคืออะไร ในส่วนของตนนั้น ถ้าลูกน้องทำผิดก็ต้องไม่ละเว้น
เมื่อถามว่าแสดงความมองว่าอาจมีลูกน้องกระทำผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีๆ ตนมองว่าลูกน้องไม่มีการกระทำผิด ยังมั่นใจในลูกน้องและเราทำงานด้วยกันมานาน เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ในช่วงใกล้แต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่หนักใจ เพราะตนไม่ได้เป็นแคนดิเดต แต่ต้องไปดูในเรื่องของระเบียบต่างๆ เมื่อถามว่ามองเป็นเรื่องเตะสกัด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองเป็นเรื่องการสกัด แต่ตำรวจไซเบอร์ทำตามหน้าที่ เราก็ต้องให้ความร่วมมือ
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าใครผิดก็ค้นได้ หากบ้านรองผบ.ตร.ผิดก็ต้องค้นได้ ก็ต้องให้ความโปร่งใส เราก็ให้ความร่วมมือ เมื่อถามว่าตอนแรกไม่อนุญาตให้ค้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นรองผบ.ตร. ดังนั้นการจะเข้าตรวจค้นบ้านของตนต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงมา วันนี้ผบช.สอท.มาเอง ตนก็เชื่อมั่น
เมื่อถามว่าหนักใจในพยานหลักฐานที่อาจโยงมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เพราะตอบได้ทุกเรื่อง เมื่อถามว่าตำรวจไซเบอร์ได้ชี้แจงหรือไม่ในการค้นบ้าน 5 หลังในวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เขาก็บอกมาค้นสิ่งผิดกฎหมาย ตนก็นำค้นเอง เมื่อค้นแล้วไม่มีก็คือไม่มี
