สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ระบุว่า นายโมฮัมเหม็ด เดฟ ผู้นำกองพลน้อยอิซ อัล-ดิน อัล-กัสซาม ของกลุ่มฮามาส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขาสามารถหลบเลี่ยงหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลมานานกว่า 30 ปี โมฮัมเหม็ด เดฟ อยู่ในรายชื่อ “บุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด” ของอิสราเอลมาเกือบสามทศวรรษแล้ว เขาอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการทางทหารที่เริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม หลังจากการสู้รบอย่างดุเดือดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส ออมรี บรินเนอร์ นักวิเคราะห์อิสราเอลและตะวันออกกลาง จากทีมนานาชาติเพื่อการศึกษาความมั่นคงเวโรนา (ITSS) กล่าวว่า
เมื่อค่าหัวของนายเดฟเพิ่มขึ้น ตำแหน่งทางทหารของเขาในฉนวนกาซาก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน “และด้วยปฏิบัติการนี้ จะทำให้ชื่อของเขาจะคงอยู่ตลอดไป แม้อิสราเอลจะสามารถลอบสังหารเขาได้ก็ตาม” บรินเนอร์กล่าวว่า ในฐานะคนที่รอดจากความพยายามลอบสังหารมาหลายครั้ง เดฟจึงเป็น “ผู้รอดชีวิตขั้นสูงสุดจากการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์” ความสามารถของเขาในการหลบเลี่ยงหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลทำให้เขาได้รับฉายาว่า ”
ชายผู้มีเก้าชีวิต” สหรัฐฯ ประกาศให้นายเดฟเป็นผู้ก่อการร้ายสากล ตั้งแต่ปี 2558 และถือเป็นตัวแทนของภัยคุกคามโดยตรงและต่อเนื่องต่อความมั่นคงภายในของอิสราเอลมานานกว่า 30 ปี เคล็ดลับในการเอาตัวรอดของเขาคือการซ่อนตัว ภาพถ่ายอย่างเป็นทางการเพียงภาพเดียวของเดฟที่เผยแพร่นั้นมีอายุมากกว่า 20 ปี และคาดว่าเดฟสูญเสียการมองเห็น แขนข้างหนึ่ง และขาข้างหนึ่งหลังจากการโจมตีของอิสราเอลในปี 2549 จาคอบ เอริกสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่มหาวิทยาลัยยอร์ก กล่าวว่า แม้ยังไม่ทราบชื่อจริงของเขา
แม้ว่าสื่อหลายแห่งจะระบุว่าคือ “โมฮัมเหม็ด อัล-มาสรี” ส่วนคำว่า เดฟ เป็นภาษาอาหรับแปลว่า ผู้เป็นแขก เนื่องจากเขาไม่เคยค้างแรมที่ใดเกิน 1 คืน เพื่อไม่ให้ถูกอิสราเอลจับตัว ขณะที่รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับชีวิตของเขาแทบไม่มีใครทราบ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิสราเอลที่กล่าวกับ ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า เดฟเกิดในค่ายผู้ลี้ภัยข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาในช่วงทศวรรษ 1960 ในปี 2557 หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เดฟศึกษาที่มหาวิทยาลัยอิสลามแห่งกาซา ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมแห่งอียิปต์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มฮามาสในเวลาต่อมา
เขาได้เข้าร่วมกับฮามาสในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ด้วยความช่วยเหลือของยาห์ยา อัยยาช หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดหลักของฮามาส ซึ่งทั้งสองมีความใกล้ชิดกันมาก หลังจากวางแผนโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในทศวรรษ 1990 เดฟเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นภายในกลุ่มฮามาส หลังจากการลอบสังหารอัยยาชโดยหน่วยข่าวกรองอิสราเอลในปี 2539 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองพลน้อยอิซซ์ เอล-ดีน อัล-กอสซัมในปี 2545 เขาเป็นผู้บงการการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินเพื่อให้นักรบฮามาสสามารถบุกโจมตีดินแดนอิสราเอลจากฉนวนกาซาได้
เขายังเน้นย้ำถึงการใช้จรวดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เอริกสันตั้งข้อสังเกตว่า วิธีการดำเนินการของเขาคือ มักจะโจมตีดินแดนอิสราเอลโดยตรงด้วยวิธีการใดก็ตามที่เป็นไปได้ เพื่อให้อิสราเอลรับผลที่รุนแรงที่สุดต่อการปฏิบัติต่อประชากรในฉนวนกาซา บรินเนอร์กล่าวว่า อุดมการณ์ของเดฟคือการทำให้การแก้ปัญหาทางการเมืองใดๆ ก็ตามต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เป็นไปไม่ได้ “ปรัชญาของเขาคือการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดใช้กำลังทหาร” บรินเนอร์กล่าวเสริมว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เดฟได้ก่อเหตุระเบิดปลิดชีพครั้งใหญ่ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ไม่นานหลังจากการลงนามในสนธิสัญญาออสโล
ขอบคุณ ที่มา ไทยรัฐ
