เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวดัง เผยว่า ที่ ม.14 ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีนางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือโย อายุ 35 ปี แรงงานหญิงชาวไทยในประเทศอิสราเอล ซึ่งถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไปตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และน้องโยเป็นบุตรสาวของนางบุญญาริน ศรีจันทร์ อายุ 56 ปี นางบุญญาริน แม่ของน้องโย ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงที่ประเทศอิสราเอลและทราบข่าวว่าน้องโยลูกสาวถูกผู้ก่อการร้ายจับตัวไปพร้อมแฟน ชื่อนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี แม่และญาติพี่น้องต่างกพากันติดตามข่าวสารในทุกช่องทาง แต่มาจนถึงวันนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของน้องโยและแฟนเลย ทางราชการก็ไม่มีใครแจ้งเลยว่าการช่วยเหลือหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับลูกสาวก็ไม่มีใครติดต่อมาหรือแจ้งมา “ช่วงเกิดเหตุรุนแรงมีคนส่งคลิปตัวประกันชาวไทยให้ญาติพี่น้อง ญาติจึงส่งมาให้ดูแต่ไม่กล้าดู เพราะไม่อยากเห็น จนกระทั่งคืนวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลา22.44 น.ได้มีนายอาร์ท
ซึ่งเป็นแรงงานไทยในอิสราเอลและเป็นเพื่อนสนิทกับนายบุญถม แฟนของลูกสาว ส่งคลิปเดียวกันมาให้ดูพร้อมกับแจ้งว่าคนใส่เสื้อผ้าสีขาวในคลิปคือน้องโย นอนขดในรถพ่วงที่ต่อจากรถไถและเป็นคลิปที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายถ่ายแล้วเผยแพร่ในอิสราเอล มีการส่งต่อกันในกลุ่มแรงงานไทยจึงส่งมาให้แม่ดู” จากการสอบถามกับนายอาร์ททราบว่าเช้าวันเสาร์ขณะนั่งดื่มกาแฟกัน ลูกสาวได้ชวนแฟนหนุ่มออกไปทำงานรับจ๊อบในวันหยุด จากนั้นก็ขี่จักรยานซ้อนท้ายกันออกไปจากแคมป์ที่พัก แล้วก็ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายปล้นเอารถและจับตัวไปเป็นตัวประกัน เพื่อนแรงงานทราบเรื่องหลังมีคลิปเผยแพร่ออกมา แต่ทุกคนไม่ทราบว่าผู้ก่อการร้ายนำตัวน้องโยและแฟนไปไว้ที่ใด ส่วนนายบุญถมแฟนของลูกสาวนั้นเพื่อนแรงงานชาวไทยที่ได้คุยบอกว่านายบุญถมถูกยิงเสียชีวิตแล้ว แต่เพื่อนไม่กล้าบอกญาติ เพราะยังไม่เห็นศพคนตาย
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือครอบครัวญาติพี่น้องพากันตระเวนทำบุญ บนบานทุกที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอบน้องโยให้มีชีวิตที่ปลอดภัยกลับมา น้องโยนั้นอีก 7 เดือน ก็ครบสัญญาการทำงานและจะได้กลับบ้านแล้ว ส่วนนายบุญถมนั้นหมดสัญญางานแล้วและหนีแท็ก ได้คบหากับลูกสาวและเป็นแฟนกันทำงานด้วยกัน ทั้งคู่คุยกันว่าจะเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน และจะแต่งงานกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องพังลงเพราะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น จนได้รับผลกระทบจึงขอภาวนาให้น้องโยและแฟนหนุ่มมีความปลอดภัยทั้งคู่ ในขณะเดียวกันแม่น้องโยได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายอาร์ทเพื่อนของนายบุญถม ซึ่งนายอาร์ทรับสายและแจ้งว่ากำลังทำงานอยู่ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามรายละเอียดจากนายอาร์ททราบว่า ชื่อนายพิชัย สีเหลือง อายุ 38 ปี ชาวบ้านโนนเมือง อ.พล จ.ขอนแก่นทำงานทางด้านการเกษตรอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุรุนแรง แต่ในขณะนี้นายจ้างพาย้ายออกจากพื้นที่ไปทำงานที่ใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยนายอาร์ทกล่าวว่าจุดอื่นๆยังเกิดเหตุสู้รบกัน แต่ในจุดที่ทำงานและพักอาศัยอยู่นั้นไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และมีความปลอดภัยดี นายจ้างและเจ้าหน้าที่ดูแลคุ้มครองอย่างดี จึงยังไม่คิดที่จะกลับบ้าน แต่ถ้ามีความรุนแรงและมีผลกระทบก็จะลงชื่อขอกลับประเทศไทยทันที.
