จากกรณี นายพงษ์ศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) เข้าแจ้งความกับตำรววจ สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ว่า นางจุฑาทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ภรรยา และเป็นอดีตดีเจชื่อดังของ อสมท.พิจิตร ปัจจุบันเป็นเจ้าของสถานีวิทยุชุมชน 2 สถานี คือ สมาย เรดิโอ และสถานีวิทยุ ชาละวันเรดิโอ ซึ่งหายตัวออกจากบ้านพักที่ ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยขับรถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 8551 พิจิตร เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา และไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00น. วันที่ 27 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบศพ นางจุฑาทิพย์ ในสภาพศพถูกมัดมือไพ่หลัง มัดเท้าด้วยเทปกาว ปิดจมูก เสียชีวิตในป่ารกทึบ ข้างถนนทางหลวงหมายเลข 117 ขาขึ้น ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร
ต่อมา พ.ต.อ.ภีมภณ ม่วงศรี ผกก.สภ.วชิรบารมี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.วชิรบารมี, ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.จว.พิจิตร และตำรวจภาค 6 สามารถจับตัวคนร้ายได้ ขณะหลบ หนีพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.พิจิตร ทราบชื่อคือ นายไพโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว อ.เมืองพิจิตร
จากการสอบสวน นายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นอดีตพนักงานไรเดอร์ แต่ต่อมาได้ออกไปทำงานบ้างไม่ได้ทำบ้าง และเช่าบ้านของ นางจุฑาทิพย์ ที่เปิดเป็นห้องเช่าอยู่ วันเกิดเหตุตนตั้งใจปีนบ้าน นางจุฑาทิพย์ เข้าไปขโมยเงิน 3,000 บาท ระหว่างหยิบเงิน นางจุฑาทิพย์ มาเห็นพอดี จึงใช้ผ้ามัดปากมัดจมูก มัดมือมัดเท้า แล้วเอา นางจุฑาทิพย์ ใส่เบาะหลังรถเก๋งคันดังกล่าวของ นางจุฑาทิพย์ ขับออกจากบ้าน ขณะนั้น นางจุฑาทิพย์ ยังไม่เสียชีวิต แล้วนำไปทิ้งในที่เกิดเหตุ ส่วนรถเก๋งก็เอาไปจำนำกับเต็นท์รถแห่งหนึ่งในราคา 15,000 บาท
สำหรับ นางจุฑาทิพย์ ถือเป็นนักจัดรายการวิทยุที่มีผู้ติดตามทั่วภาคเหนือตอนล่าง โดยเป็นเอาท์ซอร์ส จัดรายการเพลงตามสถานีชื่อดัง เช่น อสมท.พิจิตร และยังมีสถานีวิทยุชุมชนเป็นของตนเอง เป็นนักจัดรายการที่มีน้ำเสียงไพเราะเป็นเอกลักษณ์ และใช้อักขระภาษาไทยถูกต้อง ทำให้ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย และมีผู้ติดตามรับฟังรายการจำนวนมาก
