เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ร.ต.อ.ธีรวัฒน์ ราชศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากญาติคนที่เคยแจ้งคนหายไปเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า พบร่างแล้ว อยู่ร่องข้างถนนสายหนองกี่ เสิงสาง รอยต่อจังหวัดบุรีรัมย์กับจังหวัดนครราชสีมา จึงประสานหน่วยกู้ภัยหนองกี่เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้งเขื่อนห้วยยาง ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ พบร่างนายอนุสรณ์ สิมกิ่ง อายุ 30 ปี ชาว ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา อาชีพรับจ้างเล่นดนตรีในตำแหน่งมือคีย์บอร์ด ถูกรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ PCX สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทับร่างอยู่พงหญ้าข้างทาง
สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ เริ่มขึ้นอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 วัน ตรวจสอบเบื้องต้นตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย พบเพียงร่องรอยของการกระแทก
นางน้ำอ้อย เหล่าสา อายุ 56 ปี คนหางานเล่นดนตรี และเป็นคนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็ก เล่าว่า ปกติจะหางานให้เล่นดนตรี เช่น รถแห่ หรือตามร้านอาหาร เป็นเด็กดีไม่เคยมีศัตรู
วันสุดท้ายที่ติดต่อกันได้ คือ วันที่ 1 พ.ย. ตอนนั้นไปเล่นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.หนองกี่ พอรุ่งเช้าวันที่ 2 ติดต่อไม่ได้ ถามเพื่อนทุกคนไม่มีใครรู้ โทรหาติดแต่ไม่มีคนรับ พอวันที่ 3 พ.ย.เริ่มออกตามหาทุกเส้นทางแต่ไม่มีข่าว จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ย.ได้แจ้งคนหายเอาไว้ที่ สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นเส้นทางที่หลานจะขับรถกลับบ้าน ยอมรับออกตามหาหลานทุกวันตั้งแต่เช้ายัน 2 ทุ่ม
จนกระทั่งวันจันทร์ซึ่งเป็นวันทำการของหน่วยงานราชการ จึงเข้าไปขอดูกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าไม่พบอยู่ในเขตจังหวัดนครราชสีมา จึงเริ่มค้นหาในระยะแคบขึ้น จนกระทั่งมาพบศพดังกล่าว
นางบุญน้อม สิมกิ่ง อายุ 51 ปี แม่คนเสียชีวิต เล่าว่า ลูกชายมีภรรยา มีลูกอายุ 2 ขวบกับ 3 ขวบ รวม 2 คน เป็นเสาหลักของบ้านส่งเงินให้แม่ทุกเดือน เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สงสารแต่เด็กที่ยังเล็กไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 3 พบว่า ผู้เสียชีวิตได้แชตไลน์กับเพื่อนนักดนตรี บอกว่ากลับบ้านแล้วนะ พร้อมกับส่งภาพเรือนไมค์รถจักรยานยนต์ ขณะขับขี่ด้วยความเร็ว 135 กม./ชม. ประกอบกับสภาพรถและศพที่พบ น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากขับรถมาด้วยความเร็ว แล้วบังคับรถไม่ได้ในช่วงทางโค้งจุดที่เกิดเหตุ
