เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ได้มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุหมู่ครั้งใหญ่ขึ้น ที่บริเวณจุดกลับรถบนเส้นทางสายหลักถนน 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ด้านหน้าปากทางเข้า รพ.พนมสารคาม ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน พื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงทรา จนทำให้มีรถยนต์เสียหายอย่างหนักจำนวน 6 คัน
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีบรอนซ์ไม่ทราบรุ่น หมายเลขทะเบียน กน-4348 ฉะเชิงเทรา สภาพถูกพุ่งชนแบบอัดก็อปปี้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนแหลกไปทั้งคัน คล้ายกับซากเศษเหล็กจอดนิ่งสนิทแบบขวางลำเป็นคันแรก ที่ด้านหน้าสุดคร่อมอยู่บนกลางถนนในช่องทางที่ 3 และที่ 4 ทางด้านซ้ายของถนน โดยมีรถยนต์อีก 5 คันจอดกองรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และมีบางคันขึ้นไปเกยทับกันอยู่ที่ด้านบนหน้ารถของอีกคันจนเต็มถนนในช่องทางที่ 1-3 จากทางด้านขวาสุดออกมายังในเลนด้านซ้ายจนขวางเต็มทุกช่องทางการจราจร
ประกอบด้วยรถยนต์ตู้ฮุนได H1 สีดำทะเบียน ฮล-8591 กทม. จอดอยู่ในช่องทางเข้าจุดยูเทิร์นกลับรถทางด้านขวาสุด โดยมีรถยนต์กระบะแบบแค็บสีแดง หมายเลขทะเบียน 2ฒร-2884 กทม. ลักษณะมีคอกสแตนเลส บรรทุกชิ้นส่วนไก่แบบชำแหละแล้ว (น่องเล็ก โคนปีก อก) มาเป็นจำนวนมาก จอดอยู่ในลักษณะขวางลำคร่อมอยู่ที่ด้านบนของหน้ารถยนต์ตู้ในทิศทางหันหน้าไปทางฝั่งขวาของถนน
โดยมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทาทะเบียน กง-4546 เลย สภาพมีรอยพุ่งชนด้านหน้าจนยุบแหลกไปถึงกระจกบานหน้าแตกจอดแบบขวางลำอยู่ในเลยที่ 2-3 ลักษณะจอดต่อจากด้านท้ายของรถยนต์กระบะบรรทุกชิ้นส่วนไก่สด แต่หันหน้าไปทางด้านฝั่งซ้ายของถนน และยังมีรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์แบบแค็บรุ่นพรีรันเนอร์ ทะเบียน บบ-9099 ฉะเชิงเทรา สภาพด้านหน้าฝั่งขวายุบ หัวเก๋งมีรอยพุ่งชนยุบถึงคนขับ ด้านหลังมีรอยถูกพุ่งชน จอดเลยถัดออกไปยังด้านหน้าสุด ขวางถนนอยู่ในเลนที่ 2-3
โดยที่ด้านท้ายของรถยนต์ตู้นั้น ยังมีรถยนต์กระบะโตโยต้าแบบ 4 ประตูสีบรอนซ์ติดตราโลโก้ของธนาคาร ธกส. หมายเลขทะเบียน 2ขฒ-5057 กทม. จนชนต่อกันที่ด้านท้ายอีก 1 คัน สภาพเสียหายไม่มากนัก แต่มีชิ้นส่วนของเนื้อไก่ปลิวว่อนไปติดอยู่เต็มหน้ารถ และยังกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 ราย เป็นชาย 8 รายหญิง 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการสาหัส ทั้งหมดถูกช่วยเหลือลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคาม ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีเสาไฟส่องสว่างตามรายทางได้รับความเสียหายอีกจำนวน 2 ต้น สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะเกิดเหตุรถยนต์เก๋งคันแรกได้ขับปาดจากช่องทางด้านซ้ายสุดเพื่อที่จะชิดขวามาเข้ายูเทิร์นจุดกลับรถ จึงทำให้รถยนต์กระบะที่ขับมาบนถนนทางตรงหักหลบลักษณะเป็นการเปลี่ยนเลนกระทันหันจึงเกิดการพุ่งชนกันต่อเนื่องซ้ำซ้อนหลายคันดังกล่าว
เรียบเรียง siamnews
