จากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 5 คันรวด บนถนนมิตรภาพ บริเวณหน้า รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ฝั่งขาออกจากตัวเมืองนครราชสีมา มุ่งหน้าเข้า กทม. โดยคันแรกเป็นรถเทรลเลอร์ คันที่ 2 รถบัส คันที่ 3-4 รถตู้ และคันที่ 5 รถเทรลเลอร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นคนที่อยู่ในรถตู้คันที่ 3 รวมทั้งในรถคันอื่นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกนับ 10 ราย โดยขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารรถบัสระบุว่า มีการตั้งด่านอยู่ด้านหน้า จึงสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นต้นเหตุทำให้รถเทรลเลอร์เบรกกะทันหันจนรถคันท้ายชนกันหลายคัน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.45 น. วันเดียวกัน บรรดาญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อมาแจ้งความที่ สภ.โพธิ์กลาง โดย นายสุชาติ เสาเปรีย อายุ 25 ปี ชาว อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ เล่าว่า ตนเป็นหลานของ นายจิรายุทธ คะนึงดี อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถตู้คันสีขาว กำลังขับไปส่งคนในหมู่บ้าน 9 คน เพื่อไปทำงานที่ กทม. ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้ นายจิรายุทธ์ ขาขวาหัก
ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาข้างๆ อีก 1 คน คือ น.ส.เด่นนภา ยืนยาว อายุ 21 ปี แขนขวาหัก และยังมีผู้โดยสารหญิงอีกรายที่นั่งมาด้านหน้าได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกด้วย ส่วนคนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากการสอบถามลุงที่ได้รับบาดเจ็บ บอกว่าเหตุเกิดจากรถเทรลเลอร์คันหลังสุด พุ่งมาชนท้ายรถตู้อีกคันและชนต่อมาถึงรถตู้ของลุง ไม่ทราบว่าเกิดจากการหลับในหรือเบรกแตก ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อาการล่าสุดของลุง รู้สึกตัวแล้ว ตอนนี้กำลังเดินเรื่องเกี่ยวกับประกัน เพราะรถตู้มีประกันชั้น 1 อยู่ และแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับรถ 10 ล้อคันตันเหตุอีกด้วย ทั้งนี้ก็อยากฝากเตือนไปยังคนขับรถบรรทุกว่า ถ้าเป็นรถบรรทุกสายยาว ก็ขอให้คนขับมีการพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะชดใช้ความเสียหายได้เลย
ต่อมา พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง ได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดตั้งด่าน มาเปิดเผย ซึ่งพบว่าขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่โดยกำลังเรียกรถเก๋งตรวจอยู่หน้าด่าน และรถทุกคันหยุดนิ่งหมดแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีรถบรรทุก 10 ล้อ พุ่งเข้ามาชนท้ายรถตู้ ทำให้เกิดการชนท้ายต่อๆ กันมารวม 5 คัน
พ.ต.อ.วีณวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งด่าน โดยเป็นด่านตรวจสารเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอนุมติให้ตั้งด่านตั้งแต่เวลา 01.00 – 03.00 น. ของวันที่ 1 มี.ค.67 โดยอุบัติเหตุที่เกิดเป็นช่วงเวลาประมาณ 01.30 น.
จากคลิปกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าการตั้งด่านก็เป็นไปตามยุทธวิธีการตั้งด่านมาตรฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือจะมีเจ้าหน้าที่คอยโบกให้สัญญาณเตือน 200 เมตรก่อนถึงจุดตั้งด่าน ทำให้รถยนต์ทุกคันที่จะวิ่งเข้าจุดตรวจทราบ ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่ใช่การเรียกรถให้หยุดกะทันหัน แต่เรียกรถเก๋งเข้ามาตรวจ แล้วรถคันอื่นๆ อีก 5 คัน ที่กำลังจะเข้าจุดตรวจ ก็จอดสนิทรออยู่ก่อนแล้ว
แต่มีรถเทรลเลอร์คันสุดท้ายที่พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการชนคันอื่นๆ ตามมารวม 5 คันดังกล่าว เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมาทั้งหมด โดยในจำนวนนี้แอดมิต 3 ราย ซึ่งมี 1 รายที่แพทย์ประเมินแล้วว่าจะต้องอยู่รักษาเกิน 21 วัน ถ้าไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนก็สามารถกลับบ้านได้
ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจแอลกอฮอลล์คนขับรถเทรลเลอร์คันที่พุ่งชน รวมทั้งตรวจสารเสพติดด้วย แต่ก็ไม่พบ ดังนั้นก็ต้องไปตรวจสอบความเร็ว จากเครื่องวัด GPS ของบริษัทรถเทรลเลอร์ เพื่อประกอบสำนวนในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
