เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจด้อมบลิ๊งค์ทั้งในไทย และต่างประเทศสุดๆ สำหรับ ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล อีกทั้งยังเป็นสมาชิกวง BLACKPINK ที่ดังกระหึ่มไปทั่วโลก กระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ลิซ่า BLACKPINK ก็ได้กลับมาพักผ่อนมาพักผ่อนเพื่ออยู่กับคุณพ่อคุณแม่ และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย
ซึ่งก็ได้มีบลิ๊งไทยตาดี ได้เห็นเฟรเดริก อาร์โนลต์” (Frederic Arnault) ซีอีโอแบรนด์นาฬิกาหรู TAG Heuer ชาวฝรั่งเศส ผู้ได้รับฉายาเป็นองค์ชายสามแห่งตระกูล Arnault ในฐานะลูกชายคนกลางของภรรยาคนที่สองของ “เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์” (Bernard Arnault) มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งของโลกผู้ก่อตั้งเครือบริษัทแบรนด์ลักชัวรี LVMH
โดยจากภาพดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะได้ปรากฎตัวที่ช้อปของแบรนด์ “หลุยส์ วิตตอง” (Louis Vuitton) หนึ่งในแบรนด์หลักของเครือ LVMH ของบิดา ที่สยาม พารากอน งานนี้ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นทริปลัดฟ้าเยือนไทยเพื่อมาตรวจงานแทนคุณพ่อหรือเป็นทริปที่ตั้งใจมาเยือนไทยช่วงที่ “ลิซ่า กลับเมืองไทยพอดีโดยเธออยู่ยาวมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน
ล่าสุดวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ลิซ่า ก็ได้บินกลับไปถึงประเทศเกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีแฟนๆ เกาหลีต้อนรับกันอย่างเนืองแน่น แต่งานนี้ทำเอา ลิซ่า ถึงกับฝืนยิ้ม เนื่องจากแฟนคลับบางคนทำกริยาไม่เหมาะสม โดยการยื่นสิ่งของให้ แต่ดันโดนหน้า ลิซ่า เข้าอย่างจัง จนการ์ดถึงกับปัดมือออกอย่างรวดเร็ว
งานนี้ทำเอาแฟนๆ ไม่ทน แห่แสดงความคิดเห็นกันสนั่น อาทิ อูยโดนหน้าน้อนเลยงงอยู่นะ ปกติไม่ขนาดนี้จะมีระยะเสมอ ละพิวอนแจฟาดมากโหมดพิเสือเลยอ่าา, โดนหน้าเลยนั่น นี่ถ้าเว้นระยะให้น้อง น้องก็จะรับของเสมอนะ แต่นี่รุมมาพร้อมกันขนาดนี้อันตรายมาก งงอะไรเข้าเกาปกติไม่แบบนี้, โดนรุมหนักมาก แต่ก่อนไปไม่วายลดกระจกมาบ๊ายบาย ทำไมลิซ่าถึงได้แสนดีขนาดนี้ สมฉายา ‘ลิซ่าพระโพธิสัตว์, มีใครเคยเห็นวอนแจเวอร์ชั้นนี้ไหมล่ะ STOP!!! คอแทบแตกแสดงว่าโมโหมาก แล้วจะไม่ให้โมโหได้ไง อิคนเสื้อแขนยาวแดงมันสองรอบแล้วมุงเป็นบลิ๊งค์จริงไหม? เป็นต้น
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 หุ้น YG ของ วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) บริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ ราคาปรับลดลงอย่างหนักถึง 10% ในช่วงแรกของการซื้อขาย แตะที่ 73,500 วอนต่อหุ้น ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีแรงซื้อกลับจนลดลงเหลือราว 5.2% ปริมาณซื้อขายรวม 1.7 ล้านหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 1.42 ล้านล้านวอน หรือราว 38.3 ล้านล้านบาท
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ “ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล” หนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK ที่กำลังจะหมดสัญญากับทางต้นสังกัด YG ซึ่งยังคงไม่มีความชัดเจนว่านักร้องสาวจะต่อสัญญาต่อไปหรือไม่ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าจะไปในทิศทางไหน ต้องรอประกาศชัดเจนจากทาง YG Ent.
ขณะที่ BLACKPINK กำลังจะมีคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย โดยประกาศจัดเวิลด์ทัวร์ BORN PINK รวม 2 รอบ ในชื่อ “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] FINALE IN SEOUL” ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 16-17 ก.ย. 66
สำหรับ BLACKPINK ถือเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปของเกาหลีใต้ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ YG และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งคอนเสิร์ตล่าสุด “บอร์น พิงค์” ที่เริ่มจัดขึ้นรอบโลกมาตั้งแต่เดือน ต.ค.65 ถือเป็นเวิร์ลทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดทำลายสถิติเกิร์ลกรุ๊ปหญิงทั่วโลก สามารถดึงดูดผู้ชมได้มากถึง 1.5 ล้านคน ใน 41 เมืองทั่วโลกรวมถึงไทย
ทั้งนี้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ปี 66 ของ วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีรายได้รวม 1.58 แสนล้านวอน หรือราว 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 28.9 พันล้านวอน หรือราว 779 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 209.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงตรงนี้แม้สมาชิกทั้งหมดของเกิร์ลกรุ๊ปดังอย่างแบล็กพิ้งค์จะยังไม่มีความแน่ชัดในอนาคตนับตั้งแต่สัญญาที่พวกเธอกับทางวายจีได้หมดลงไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่คนที่ดูเหมือนจะได้รับการจับตาที่สุดก็คือลิซ่านั่นเอง
เรื่องนี้ก็คงจะไม่แปลกใจแต่อย่างใด เมื่อมองถึงชื่อเสียงและความสำเร็จโดยส่วนตัวของนักร้องหญิงเองที่ไปไกลในระดับโลกโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ไม่เพียงเท่านี้ประเด็นเรื่องข่าวลือที่ว่าที่ผ่านมาสาวไทย 1 เดียวคนนี้ดูเหมือนจะได้รับการดูแลปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเท่าไหร่จากทางค่ายหรือแม้แต่แฟนเพลงในช่วงแรกๆ รวมไปถึงค่าตัวที่ได้รับซึ่งต่ำกว่าหากเทียบกับ 3 สมาชิกที่เหลือของแบล็กพิ้งค์ก็ยิ่งทำให้หลายคนต่างก็เชียร์ให้เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เกาหลีแล้ว
