อิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาอย่างเต็มรูปแบบ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการส่งเสบียงและสิ่งของจำเป็นทั้งหมด

เมื่อวันนี้ 10 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา อิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาอย่างเต็มรูปแบบ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการส่งเสบียงและสิ่งของจำเป็นทั้งหมด ส่วนทางกลุ่มฮามาสขู่สังหารตัวประกันหากอิสราเอลยังเปิดฉากถล่มเขตกาซา โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ตลอดคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทำลายเป้าหมายในเขตกาซา กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ รายงานว่า กาซามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 690 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 140 คน ผู้หญิง 105 คน

ขณะที่ในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 900 คน นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอล กระจายกำลังใกล้พรมแดนติดกับเลบานอน หลังมีการยิงปะทะกันระหว่างกลุ่มเฮซบอลเลาะห์และกองทัพอิสราเอลเมื่อวันที่ 8 ต.ค. และอิสราเอลระบุว่าได้สังหารผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธที่ล่วงล้ำเข้าเขตแดนอิสราเอลจากฝั่งเลบานอน

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า การโจมตีทางอากาศในกาซาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และอิสราเอลจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยประชาชนที่ถูกจับตัวไปในกาซา พร้อมเตือนว่าจะจัดการกับกลุ่มฮามาส โดยยอมรับว่า ยังคงมีนักรบกลุ่มฮามาสแฝงตัวอยู่ในอิสราเอล หลังเปิดฉากบุกเข้ามาตั้งแต่เช้าวันที่ 7 ต.ค.2566 ด้านกองทัพอิสราเอล ระบุว่า ได้เรียกตัวกำลังพลสำรองเข้าประจำการ 300,000 นาย ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมอิสราเอล

ประกาศปิดล้อมเขตกาซาเบ็ดเสร็จ ตัดน้ำตัดไฟ ไม่ให้ส่งแม้แต่อาหารและเชื้อเพลิงเข้าไปภายใน ท่ามกลางความกังวลขององค์การสหประชาชาติ โดยมีรายงานว่า ชาวปาเลสไตน์ได้รับโทรศัพท์และข้อความเสียงจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิสราเอลให้ออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือและทางตะวันออกของกาซา เตือนว่าทหารจะเข้าไปปฏิบัติการในบริเวณดังกล่าว

ขณะที่โฆษกกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ขู่จะสังหารตัวประกันหากอิสราเอลยังโจมตีประชาชนโดยไม่เตือนล่วงหน้า และไซออนนิสต์ที่เป็นศัตรูจะต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้โฆษกฮามาส ระบุว่า ทางกลุ่มปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม โดยดูแลตัวประกันให้ปลอดภัย