จากกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เหตุการณ์หน้าห้างดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา ที่รถแท็กซี่ ถูกรถเก๋งสีขาวเร่งเครื่องพุ่งชนแท็กซี่อย่างแรง ก่อนจะถอยอีกครั้ง และเร่งครื่องพุ่งชน พร้อมกับขับไปทันที
ต่อมาตำรวจเจอรถเก๋งคันดังกล่าว จอดอยู่ที่ซอยอินทามระ ในสภาพพังยับ ภายในรถคันก่อเหตุ มีกุญแจคารถไว้อยู่และพบซองกับขวดน้ำ 2 ขวด บรรจุของเหลวสีชาเหลืองเอาไว้บริเวณพำนักเท้าที่นั่งผู้โดยสารหน้า และหน้ารถติดสติ๊กเกอร์ สำนักงานอัยการสูงสุด อยู่หน้ากระจกรถด้วย
ล่าสุดในเพจ Survive – สายไหมต้องรอด โพสต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า
แม่ คนขับเก๋งสีขาวชนแท็กซี่ ประสานสายไหมต้องรอด ยันลูกป่วยคิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า ใครเจอฝากนำส่ง รพ. วอนอย่าทำร้ายลูก!
ทั้งนี้ ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีกว่า
แม่คนขับเก๋งขาว ให้ข้อมูล ลูกเคยบวชตอนเรียนมหาวิทยาลัย 2 เดือน คิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า เพื่อนๆ ต้องไปกราบขอให้สึกมาเรียนให้จบ!
พร้อมกับแนบหลักฐานการรักษาพยาบาล และใบตรวจรักษา ของชายรายดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผู้ป่วยชาย อายุ 33 ปี เข้ารับการตรวจรักษาเมื่อวันที่ 05/01/2567 มากับมารดา ขาดนัด ขาดยา นัดมาจากฉุกเฉิน 2 วันก่อน มาตรวจที่ฉุกเฉิน มีพูดคนเดียว บอกว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า มีก้าวร้าว ทะเลาะกับมารดา ได้ทานกับฉีดยา รับประทานยาต่อเนื่อง ยังคิดว่าตนเองเป็นพระพุทธเจ้าเป็นบางครั้ง เครียดเป็นบางครั้ง ปฏิเสธหูแว่ว ภาพหลอน ไม่หงุดหงิด นอนหลับได้