เปิดประวัติ ครูเทียม จากลูกเมียน้อยสู่ครูสอนเต้น ก่อนถูกดำเนินคดีกับเด็กอายุ 16

Uncategorized

ชื่อของ ครูเทียม ชุติเดช ถูกพูดถึงอย่างมากในขณะนี้นะครับ หลังผู้ปกครองพาบุตรชายวัย 16 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.จักราช เนื่องจากถูก นายชุติเดช ทองอยู่ หรือ ครูเทียม พาไปกระทำมิดีมิร้ายในห้องพัก พื้นที่ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลุยจับในทันที จนถูกดำเนินคดีถึง 3 ข้อหาด้วยกัน

ทั้งนี้ ครูเทียม เคยออกมาชี้แจง ถึงเรื่องการเปิดค่ายเพลงเพื่อหวังกินเด็ก ผ่านรายการ คนดังนั่งเคลียร์ เอาไว้ว่า ได้เข้าบริหารเพียง 1 ปี เป็นช่วงสุดท้ายของบริษัททำเพลงลูกทุ่ง เปิดตัวศิลปินในค่ายอย่างฮือฮามาก ซึ่งหลาย ๆ คนจะบอกว่าเรากินเด็กหล่อ ๆ

แต่เราต้องเอาน้อง ๆ ที่หน้าตาดีมา เพื่อเปิดตัวให้มีเสน่ห์จากหน้าก่อน ก็อยากจะปั้นนักร้องผู้หญิง แต่มันยุ่งยากกว่าการปั้นผู้ชายมาก และอันที่จริงเราอยู่ใกล้เด็ก ๆ ในบริษัทแต่ละคนมาก ๆ เราจะเหม็นหน้ากันเอง แล้วกินไม่ลงหรอก

สำหรับประวัติ ครูเทียม แห่งรายการชิงช้าสวรรค์ มีชื่อจริงว่า ชุติเดช ทองอยู่ ปัจจุบันอายุ 60 ปี เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ มีอาชีพเป็นครูสอนเต้น แถวหน้าของเมืองไทย เป็นนักปั้นมือทองแห่งวงการแดนเซอร์ หรือวงการหางเครื่องไทย ปั้นศิลปินโด่งดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บานเย็น รากแก่น, เอกชัย ศรีวิชัย, นกน้อย อุไรพร และ ต่าย อรทัย เป็นต้น

ซึ่งกว่าจะมาเป็นครูเทียมแบบทุกวันนี้ ชีวิตก็เคยผ่านความลำบากมามากครับ ครูเทียมเคยเปิดเผยออกสื่อว่า เป็นลูกเมียน้อย คุณพ่อเป็นคหบดี แต่หลังจากคุณพ่อเสีย แม่เลยต้องหอบลูก 6 คน มาอยู่บ้านนอก มีชีวิตลำบาก

จากที่คุณพ่อเคยพาไปแจกของเด็กยากไร้ ครูเทียมต้องกลายเป็นคนไปนั่งรับแจกซะเอง อายุ 14 ปี ช่วงปิดเทอม ครูเทียมนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาทำงานก่อสร้าง หาเงิน จนวันหนึ่งได้ไปสมัครงานในวงดนตรีลูกทุ่งของ ศรเพชร ศรสุพรรณ

จนมีโอกาสทอง คนขาด เขาก็ถามว่าไหวไหม จนได้เต้นคู่กับเมีย ศรเพชร ศรสุพรรณ จนกลายเป็นข่าวลือว่า ครูเทียมแอบตีท้ายครัวศรเพชร แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อครูเทียมเดินทางไปเป็นครูสอนเต้นที่เชียงใหม่ ครูเทียมก็ได้ปลดล็อกตัวเองว่าเป็น LGBTQ อย่างเต็มตัว

ตลอดในช่วงชีวิตการทำงานในวงการลูกทุ่ง ชื่อของ ครูเทียม เคยตกเป็นข่าวหลายครั้ง ถึงความฝีปากกล้า วิจารณ์อย่างร้อนแรง โดยวิจารณ์นักร้องลูกทุ่งคนดังอย่าง จ๊ะ นงผณี ซึ่งตอนนั้นเป็นสมัยที่เพลงคันหู กำลังโด่งดัง ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง จนจ๊ะถึงกับหน้าเสีย

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ทางด้านสาวจ๊ะ ได้บอกว่า อะไรผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เรื่องนี้ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว มันนานมากและที่สำคัญ ณ ตอนนั้น จ๊ะก็ควรโดนด่าจริง ๆ จ๊ะเต้นแรง จ๊ะก็โดนด่าแรง ครูวิจารณ์แรง ครูก็โดนวิจารณ์แรงกลับ มันคือกรรมใครกรรมมัน เราทำอะไรไว้ ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่จะตามมาให้ได้

เรียบเรียง siamnews

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *