‘ทิม พิธา’ ตอบคำถามถึง ‘ทักษิณ’ ปมหวนกลับไทย
พาดหัวข่าว ‘ทิม พิธา’ ตอบคำถามถึง ‘ทักษิณ’ ปมหวนกลับไทย
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 14 พ.ค.66 ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงช่วงหนึ่ง กล่าวว่า
ส่วนการตั้งรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงการกลับมาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ถ้านายทักษิณกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมจริง ๆ ก็เป็นสิ่งที่พลเมืองควรได้รับ ไม่ใช่เฉพาะแค่นายทักษิณคนเดียว
และเชื่อว่า การที่ทักษิณกลับมา จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ไม่ใช่ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ไม่มีความยุติธรรม
ต้องมีความรับผิด รับชอบ จะต้องทำให้ระบบยุติธรรมเกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย แต่จะรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าอยู่ดี ๆ แล้ว มีนายกฯเหนือเมฆเข้ามา
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดใจคำถามมีความความสัมพันธ์ กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ลักษณะไหน ว่า 1.ผมยังเป็นประชาชนธรรมดา
ในช่วงมีรัฐบาลทักษิณอยู่ คิดว่า สิ่งที่นายกฯ ทักษิณ ทำมา มีคุณูปการกับประเทศไทยพอสมควร แต่พอผ่านมา 20 ปี ปีนี้ 2566 บริบทแตกต่างพอสมควร ยกตัวอย่าง คุณทักษิณ
เป็นคนทำเรื่องผู้ว่า CEO ทำให้เห็นว่า ไม่เป็นเรื่องราชการอย่างเดียว แต่สามารถต่อไปยังจังหวัดได้ ถ้ามาถึงตรงนี้ ผมก็จะกระจายอำนาจ แล้วให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ มาจริงๆ แต่อาจไม่ตอบโจทย์
ความท้าทายในประเทศ ณ ปัจุบันนี้บริบทที่ 2.ผมมีโอกาสใกล้ชิดนายทักษิณ แม้เขาไม่ได้สนใจผมในตอนนั้น ผมเป็นคนจดประชุม เวลามีอะไรผมก็นั่งอยู่หลังห้อง คอยจดการประชุมบ้างนิดหน่อย
เขาก็คงไม่สังเกตว่า ผมเป็นใครที่ไหน เห็นเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง 3.คุณทักษิณ เป็นคนคนหนึ่ง เขียน เรคคอมเมนเดชั่นให้ผม ไปเรียนต่อ ก็บอกว่า เรื่องบริหารธุรกิจก็แบบหนึ่ง บริหารราชการก็แบบหนึ่ง
ฉะนั้นเรียนบริหารรัฐ ก็น่าสนใจ คำถามคิดว่า “คุณทักษิณ” กลับเมืองไทย การเมืองไทยจะเป็นแบบไหนนายพิธา กล่าวว่า การเดินทางกลับประเทศไทย เป็นสิทธิของพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รวมถึง
“คุณทักษิณ” คนเดียว แต่รวมถึงประชาชนทุกคนที่จะเข้าต่อสู้กับคดีความ อย่างมี นิติธรรม นิติรัฐ และความเป็นกลาง เท่าที่ตามคดีมา เอาคู่ต่อสู้ มาเป็นคู่ขัดแย้ง อันนี้คิดว่า ไม่ยุติธรรมกับทักษิณ ก็เป็นสิทธิ์คุณทักษิณจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
สำหรับผม การบริหารประเทศไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องเป็นเรื่องของระบบ ไม่ใช่ใคร คนใดคนหนึ่ง คนที่ตัดสิน ต้องไม่ใช่เป็นศัตรู ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คิดว่า จะมีความแฟร์ขึ้นมา เป็นจุดหนึ่งเริ่มความ
ปรองดองสมานฉันท์ บางทีประเทศไทย ไปเริ่มความสมานฉันท์ก่อน แต่ความยุติธรรมยังไม่เกิดขึ้น มันยุติธรรมสำหรับคนทำ แต่คนที่โดนกระทำไม่เคยรู้สึกยุติธรรมเลย ฉะนั้นความยุติธรรมต้องเกิดขึ้นก่อน
แล้วประเทศไทยได้ก้าวข้ามความขัดแย้งตลอด 17 ปี เราจะได้ไปเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ๆ แล้วพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เราถวิลหากัน