วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 มีรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยภาพเส้นทางพายุไต้ฝุ่นระบุว่า อัพเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “มาวาร์ (MAWAR)” เช้าวันนี้พายุฯ ยังอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ (ไปทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์) ทิศทางไม่ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ จึงไม่ส่งผลกระทบกับสภาพอากาศบ้านเรา แต่อาจจะช่วยดึงดูดมรสุมให้แรงขึ้นได้ ช่วงปลายเดือน (28 -29 พ.ค. 66)
โดยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังพัดปกคลุมและมีกำลังปานกลาง ฝนจะเริ่มตกกระจายมากขึ้นบริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก แต่ปริมาณอาจจะยังไม่มากนัก วิเคราะห์มีแนวคุ้ง/แนวโค้ง (Trough) บริเวณภาคอีสานตอนล่าง ช่วง 27-30 พ.ค. 66 ฝนเพิ่มขึ้นบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณมฑล ส่วนภาคใต้ยังเป็นด้านรับมรสุม
ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้โพสตข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นลูกแรกปีนี้กำลังมา คาดว่าไม่เข้าประเทศไทย แต่ส่งผลให้มีฝนตกมากขึ้นปลายเดือนนี้
ล่าสุด JTWC และ JMA คาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่น MAWAR มีแนวโน้มพัฒนาตัวเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ประมาณวันศุกร์ที่ 26 พ.ค.นี้ เนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวสูงถึง 29-30 องศาเซลเซียส ทำให้มีการสะสมพลังงานความร้อนไปเพิ่มให้กับพายุ
คาดว่ามีทิศทางการเคลื่อนตัวไปยังฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ และหมุนวนขึ้นไปยังทิศตะวันออกของเกาะไต้หวัน และตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งเมื่อพายุเคลื่อนตัวเหนือเส้น Lat 22o (เกาะไต้หวัน) ซึ่งมีอุณหภูมิน้ำทะเลประมาณ 26-27 องศาเซลเซียล ก็จะทำให้พายุมีกำลังลดลง
ทำให้ช่วงปลายเดือน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นทั่วทุกภาค (ยกเว้นภาคเหนือ) พอจะทำให้เราได้น้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น เตรียมขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายขนาดเล็กรอได้เลย ช่วงต้นฝน และกลางฝน โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม ต้องรีบเก็บน้ำไว้ใช้ปลายฝน ที่มีแนวโน้มจะลดลงจากปรากฏการณ์ El Nino เกษตรกรจึงควรเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา, รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
