เปิดโฉมหน้าตัวจริง ‘วัลลี ยอดกตัญญู’ ในวัย 53 ปี
หากย้อนไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก วัลลี บุญเส็ง หรือ วัลลี ณรงค์เวทย์ เด็กหญิงยอดกตัญญู ที่ต้องวิ่งกลับบ้านไปป้อนข้าวแม่ที่ป่ว.ยและยายที่ตาบ0ด ทั้งที่ในตอนนั้นเธอมีอายุแค่ 12 ปี
ซึ่งเรื่องราวของเธอถูกเล่าขานและกลายเป็นที่ยกย่องในความกตัญญูกตเวที จนกลายมาเป็นบุคคลต้นแบบในสังคมไทยอยู่ช่วงหนึ่ง และมีการนำเรื่องราวชีวิตของวัลลี มาทำเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ทว่า เมื่อไม่นานมานี้
วัลลีได้ออกมาโทรทัศน์อีกครั้ง พร้อมร้องขอความยุติธรรมหลังจากที่มีคนนำเรื่องราวของเธอไปทำเป็นเรื่องตลกเสียดสี และวันนี้ กระปุกดอทคอม ก็จะมาเปิดประวัติของ วัลลี บุญเส็ง ให้ได้ทราบกันค่ะ
วัลลี บุญเส็ง หรือชื่อเดิมคือ วัลลี ณรงค์เวทย์ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2511 ที่ จ.สมุทรสาคร ปัจจุบัน วัลลีแต่งงานกับ พ.ต.ท. ธนพัฒน์ บุญเส็ง สว.ฝอ.3 ตำsวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม (ขณะนั้นชื่อว่า ส.ต.ท.บุญเรือน บุญเส็ง)
และมีบุตร 2 คนคือ บุญรัตน์ บุญเส็ง และณรงค์เวทย์ บุญเส็ง วัลลี บุญเส็ง โด่งดังจากการที่เธอได้เลี้ยงดูนางวิไล ณรงค์เวทย์ มารดา และคุณยายของเธอตามลำพัง ทั้งที่ในตอนนั้น วัลลีเพิ่งมีอายุเพียง 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดโรงธรรม
อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เธอต้องแบกรับภาระ วิ่งไปมาระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นเวลา 8 กิโลเมตรทุก ๆ วัน เพื่อที่จะป้อนข้าวป้อนน้ำให้แม่และยาย จากนั้น ครูที่โรงเรียนวัดทรงธรรม ได้ทราบถึงความกตัญญูของวัลลี ครูจึงพยายามช่วยเหลือ
และเรื่องราวของเธอ จึงได้ไปปรากฏในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และทำให้มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับนำเรื่องราวราวของวัลลี ไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง วัลลี ที่ส่งผลให้ สมฤดี นุ่มอำพันธ์
ผู้รับบทวัลลี โด่งดังและมีงานเข้ามามากมาย และทำให้วัลลี บุญเส็ง ได้รับฉายาว่า วัลลี ยอดกตัญญู วัลลี ได้รับทุuการศึกษา จนสามารถเรียนจบชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม แต่เนื่องจากปัญหาสุขภาพของยาย ทำให้วัลลีตัดสินใจ
ไม่เรียนต่อที่กรุงเทพมหานคร แต่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และได้พบรักกับสามีคนปัจจุบัน ซึ่งวัลลียอมรับว่า เธอเองเรียนไม่จบ เนื่องจากต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เธอเริ่มทำงานธนาคารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533
และแต่งงานในปี พ.ศ. 2535 เมื่อทำงานได้ 8 ปี ก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายบริหๅร มาลงทุuในธุsกิจส่วนตัว เนื่องจากในตอนนั้นเธอกำลังมีลูก โดยในเริ่มแรกวัลลีประกอบอาชีพค้าส่งข้าวสาร แล้วจึงหันมาทำธุsกิจอาหารทะเลเมื่อปี 2544
นอกจากนี้ ชาวบ้านในละแวกนั้นยังมักจะมองว่า เธอหยิ่ง ไม่สุงสิงกับใคร และมองว่าตัวเองเป็นคุณนายนายตำsวจ ซึ่งเธอบอกว่า เธอเองไม่ได้หยิ่ง แต่ทำงานหนักมาทั้งวันก็อยากจะพักผ่อน และที่คนมองว่าสามีของเธอเป็นนายตำsวจยศใหญ่นั้น
จริง ๆ แล้วนั้นไม่ใช่ เป้าหมายของวัลลีในตอนนี้ คือการเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก และสอนให้ลูกเป็นคนดี เธอเชื่อว่าวันนี้เธอยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็พ้นจากความลำบากมาแล้ว และชีวิตนี้ก็คงจะประกอบอาชีพทำธุsกิจส่วนตัวต่อไปเรื่อย ๆ
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 วัลลี บุญเส็ง ได้เข้าพบตำsวจ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่รายการโทรทัศน์ 3 รายการ นำชีวิตของเธอไปล้อเลียน ทั้งเรื่องความพิการของยายและแม่ การพูดกับแม่ไม่ดี มีฉากเอาช้oนยัดปๅกแม่ เรื่อยไปจนถึงขั้นกsะทืUบุพการี
พร้อมเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบจรรยาบรรณของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ จนทำให้ ตุ๊กกี้ ดาราตลกชื่อดัง เป็นตัวแทนของบริษัnเวิร์คพอยท์ ได้เข้ามาขอโทษวัลลี และพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนวัลลีเองก็ไม่ติดใจเอาความ และถอนแจ้งควๅม
ในที่สุด วัลลี บุญเส็ง ถือเป็นแบบอย่างของความกตัญญู และสู้ชีวิต ไม่ว่าในตอนเด็กที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความยากจน หรือโตมาก็ต้องเจอกับเรื่องที่สังคมมองเธอผิดไป แต่วัลลีก็ยืนยันว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เธอก็จะไม่มีวันท้อถอยอย่างแน่นอน