มะนาว ศรศิลป์ เคลียร์ข่าวคนเมาท์ ไปเรียนแล้วใจแตก
มะนาวได้เผยว่า เราอยู่วงการมาตั้งแต่อายุ 16-17 วันที่ตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อ คิดกับตัวเองนานเหมือนกันกว่าจะขอที่บ้านได้ กว่าจะขอต้นสังกัดได้ ช่วงนั้นถ่ายละครทุกวัน มีเป้าหมายอยากไปเรียนต่อ เข้าวงการเร็วการเรียนไม่เต็มที่ ตอนนั้นคิดว่า ถ้าเราออกไปหาประสบการณ์เรื่องการศึกษา ถ้าเราฉลาดมีความรู้กลับมา เรื่องสวยเรื่องการแสดงมันจะกลับมาเองมากกว่า นี่วิธีคิดนาวนะ เราชอบฟุตบอลเลยไปเรียนอังกฤษ มันตอบโจทย์เรามากกว่าอยู่อเมริกากับพี่ ถ้าไปอยู่กับพี่คิดว่าไม่อิสระ คิดว่าได้ไปแล้วก็ไปเลย ตอนไปขอช่องสัญญายังไม่หมด ตอนแรกจะไปเรียนภาษา 6 เดือน แต่พอไปแล้วติดใจก็ขอเพิ่มอีก 6 เดือน แล้วรู้สึกอยากเรียนปริญญาโทต่อ ก่อนเรียนเตรียมภาษาอีก1 ปี เรียนจริงรวมทั้งหมด 3 ปี
ตอนที่เรากลับมาเบรกเขาจะถามว่ารับละครมั้ย เราก็รู้สึกเกรงใจ เกรงใจผู้ใหญ่ เวลาเขาถามมา เราก็ปฏิเสธอย่างเดียว รู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว ก็เคลียร์กับเขาก่อนเลยว่าหนูจะตั้งใจเรียน ยังไม่เล่นละคร แม่ก็ถามว่าเขาเคยเห็นดาราหลายคนไปเรียนต่างประเทศแล้วก็หายไปเลย อันนี้เขากลัวมาก..
นาวบอกว่ายังโชคดีมีโซเชียลมีเดีย ยังอัปเดตชีวิตได้ให้อยู่ในสายตาประชาชน เลยบอกแม่ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้าหลุดจริงเราจะกลับเข้าไปอยู่สังกัดนั้นมันก็ยาก แต่เราก็ต้องแลกว่าจะเอาแบบไหนอะไรดี เราอาจจะสุดโต่งไปหน่อย ก็บอกเขาว่าเราเกรงใจขอตรงกลางแล้วกัน ขอออกมาเรียน อยากทุ่มเทให้มันเต็มที่ เขาเข้าใจว่าเราเรียนหนักจริงๆ เราก็ขอยุติสัญญาไปก่อน
ส่วนประเด็นข่าวที่ขอฉีกสัญญาไปเรียน จะไม่กลับมาเพราะใจแตกนั้น มะนาวก็ยอมรับว่าอาจจะมีความใจแตกแหละ เพราะมันได้เห็นโลกกว้าง รู้สึกว่าใจฉันไปแล้ว เราเอ็นจอยกับโลก รู้สึกว่ามันสนุก เราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ใจเราก็อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไม่ใช่ใจแตกแบบไปเที่ยวเกเรไม่ตั้งใจเรียน
ส่วนเรื่องความรัก ตอนนี้โสดมาสักพัก มีคนเข้ามาหาบ้างแต่ยังสนุกกับการใช้ชีวิตโสด เราโฟกัสชีวิตว่าต้องมีพร้อมอะไรก่อนบ้าง ถ้าเราไม่มั่นคงหาเงินไม่ได้ แล้วใครจะดูแลเรา กับคนเก่าเราก็คบกันมานานตั้งแต่เด็ก ช่วงที่ไปเรียนตอนนั้นคือถอยหลังกันแล้ว ต่างคนต่างออกไปตามความฝันของตัวเอง ก็มีเฮิร์ตบ้าง คบกันมา 12 ปีเสียดายเวลามั้ย ก็เสียดายนะคะ แต่ถ้ามันไม่ใช่มันจะเสียดายมากกว่า ชีวิตยังอีกไกล ส่วนตอนนี้อยากให้ตัวเองมีความมั่นคง ทำในสิ่งที่อยากทำ โฟกัสกับตัวเองก่อน
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม manowsornsin และ kuizapshow
เรียบเรียงโดย ทีมงาน สยามนิวส์
