เรียกได้ว่าเป็นพระเอกหนุ่มตลอดกาลกันเลยทีเดียวนะคะ แม้ว่าปัจจุบันความหล่อก็ยังคงไม่เปลี่ยนเหมือนเช่นเคยกับ คุณป๋อ ณัฐวุฒิ ที่อยู่คู่กับวงการบันเทิง มานานกว่า 23 ปี ซึ่งล่าสุดในรายการ SING WITH ME ร้องกับซี
คลิป
หลังเคยร่วมงานแสดงละครเรื่อง คมแฝก ด้วยกันจนกลายผลงานสร้างชื่อให้ทั้งคู่ ก่อนจะต่างคนต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง เจ้าตัวได้เปิดใจเกือบทุกเรื่องกับ ซี ศิวัฒน์ พร้อมกับเล่าเรื่องลับในอดีตที่เก็บมานานกว่า 23 ปี
มีจุดเปลี่ยนจากเคยคิดจะออกจากวงการกลับโด่งดังเป็นพลุแตก แต่ก่อนที่จะไปทราบว่านักแสดงคนไหนนะคะที่ทำให้ คุณป๋อ เอือมระอากันสุดๆ แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น ป๋อ ณัฐวุฒิ ก็ขอเล่าเส้นทางตอนเข้าวงการก่อน
ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัว ได้แสดงละครเรื่อง เก็บแผ่นดิน เป็นเรื่องแรก และเกือบจะไม่อยู่ในวงการต่อแล้ว เพราะรู้สึกกดดันกับการแสดง จากนั้นก็ได้แสดงต่อในเรื่องดั่งสวรรค์สาป เป็นเรื่องที่ 2 ประกบคู่กับ กบ สุวนันท์ นางเอกเบอร์หนึ่งของช่องในตอนนั้น
แถมฟีดแบ็คที่ได้กลับมานั้นก็ดีแบบสุดๆ ไปเลย อีกทั้งการเล่นละครตัวเองก็ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนมาดังสุดๆ จากเรื่องที่สาม ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน ประกบคู่กับ คุณพลอยไพลิน ซึ่งในบทละครตอนนั้น ลิสต์ชื่อพระเอกมา 10 คน ไม่มีชื่อป๋อเลย
พอบอกกับตน ทุกคนถามเลยว่าทำไม ไม่คิดว่าตัวเองจะมีปัญญาได้เล่น ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ คุณแดง สุรางค์ ให้โอกาสได้เล่นเรื่องนี้ พร้อมกับเปิดเผยเรื่องที่ไม่มีใครรู้ว่า ตอนที่แสดงเรื่อง ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน พอถ่ายทำเสร็จ คัตซีนจบสุดท้าย ตนเองกราบเท้าพลอยไพลิน และตนเชื่อว่ามันเปลี่ยนชีวิตของตนได้เลย ตอนนั้นก็ไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ มันสุดเกินคาดจริงๆ
และในช่วงที่ตัวเองดังมาก คือตอนไปงานอีเว้นต์ แล้วเจอแฟนคลับมาออเต็มแถมยังกริ๊ดให้ด้วยหนักถึงขนาดที่ว่า แฟนคลับเขย่ารถตู้ ทุบกระจกให้ตนเองออกมา ส่วนเรื่องที่เป็นตำนานมากที่สุด คือ คมแฝก ถ้าไม่มีวันนั้นเราก็ไม่มีวันนี้
และเมื่อถึงคำถามที่ว่า ทำงานมา 23 ปี มีใครที่ตนเองไม่ชอบบ้าง ไหม งานนี้ค่ะทางด้านคุณป๋อเองก็ได้เปิดเผยว่า มีแน่นอนแต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใครแล้วกัน แต่อารมณ์เหมือนไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเล่นละครกับคนนี้เลย มันไม่ตั้งใจเลย เล่นไม่ได้จนคนมาบรีฟก็ทำไม่ได้ ไม่เข้าใจ ง่ายๆก็คือไม่รู้อะไรเลย
ถึงขั้นเคยพูดกับผู้ช่วยว่า เบรกไปฝึกน้องก่อนไหมสักเดือน ให้น้องไปอ่านบทก่อน เคยต้องถ่ายทำ 7 เทคตลอดเวลา 7-8 ครั้งเหนื่อย เพราะเขาไม่ตั้งใจ สุดท้ายวันเวลาผ่านไปเราเก็บความไม่ชอบ ไม่อยากทำงานกับคนนี้ จนจบเรื่องไป ละครก็ผ่านไป
พอมานั่งย้อมคิดๆดูวันนี้ เด็กยังไงก็คือเด็ก มีเรื่องการเรียน เพราะว่าน้องต้องไปทำโปรเจ็คกับเพื่อน น้องมีแฟน งอนแฟน บ้าง ทุกวันนี้ตนเข้าใจว่าวันนั้นอาจจะเหมือนกับศูนย์รวมของจักรวาล
เหมือนพระอาทิตย์ที่พร้อมจะแผด แต่จริงๆเราไม่ได้ทำร้ายอะไรเขา แต่ความรู้สึกมันบอกว่า ไม่ชอบเด็กคนนี้เลย บอกจนไม่บอกดีกว่า และก็มีอีกคน ไม่อยากพูดกับคนนี้ปากเหม็น และ ไม่กล้าบอกจริงๆ ถ้ามีโอกาสอยากจะไปขอโทษเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ขอโทษอยากไปปฏิบัติดีกับเขาเหมือนกัน ตอนนั้นไม่ค่อยคุยกับเขา คุยแบบมีระยะห่าง
