ย้อนชีวิต โฉมฉาย ฉัตรวิไล เคยคิดลาออกจากวงการบันเทิง รู้สึกละอายทำงานได้ไม่เต็มร้อย

Uncategorized

เรียกได้ว่าเป็นข่าวเศร้าวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wipavee Charoenpura หรือ กุ้ง วิภาวี เจริญปุระ ได้โพสต์ภาพนักแสดงอาวุโส ฝีมือคุณภาพอย่าง โฉมฉาย ฉัตรวิไล หรือ แม่แอ๊ด โฉมฉาย ที่เสียชีวิตในวัย 73 ปี

ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างที่สุด ของแม่แอ๊ด โฉมฉายฉัตรวิไล ขอให้คุณงามความดีของพี่แอ๊ดจงนำทางวิญญาณของพี่แอ๊ดสู่สุขคติสัมปรายภพ กราบลาพี่แอ๊ด โฉมฉาย ฉัตรวิไล ด้วยความรักและอาลัยอย่างยิ่ง

ซึ่งคุณแอ๊ดเป็นนักแสดงที่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง และคร่ำหวอดในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนานเกือบ 60 ปี ซึ่งเป็นที่สร้างชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่รักและเคารพต่อนักแสดงรุ่นเก่า และรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก

อย่างไรด็ตามก่อนหน้านี้คุณแอ๊ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าเคยคิดอยากจะลาออกจากวงการบันเทิง หลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยเมื่อช่วงปลายปี 2559 ก็เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า เรื่องสุขภาพร่างกาย ถ้าถามว่าอ่อนแอถึงขนาดทำอะไรไม่ได้ไหม มันไม่ใช่ เพียงแต่รู้สึกว่า เมื่อก่อนการที่ได้เล่นละครทำงานอยู่ในวงการนี้ มีความสุขมาก มีความกระตือรือร้นในการทำงาน ขนาดตอนที่เป็นเมโนพอส (โรควัยทอง) ยังรู้สึกกระตือรือร้นมากกว่านี้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่า เหมือนกำลังเป็นโรควัยทอง รู้สึกว่าไม่ได้มีความรู้สึกในการทำงานเหมือนเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับละครนะ

เพียงแต่ว่าอย่าส่งบทละครที่ ยาว 3-4 หน้า มาให้เล่น แค่รู้สึกว่าอยากเล่นสบายๆ บ้าง ย้อนกลับไปเมื่อก่อน เป็นคนที่ไม่ค่อยจะรับเล่นบทรับเชิญนะ รู้สึกว่าถ้าบทไม่เยอะ จะไม่ค่อยอยากเล่น แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า ขอความกรุณาผู้จัดว่าให้เล่นบทรับเชิญเถอะ คือความรู้สึกตอนนี้เหมือนมาเป็นโรควัยทองตอนนี้ ทั้งที่น่าจะเป็นตั้งแต่ตอนอายุ 50 ปี ความรู้สึกมันหมดเรี่ยวหมดแรงที่จะเล่นละคร แต่ถ้าให้เราไปออกรายการหรือทำอะไรที่ง่ายๆ เรายังทำได้ อาจเป็นความรู้สึกของการอิ่มตัวด้วย

เมื่อก่อนนี้เวลาที่อ่านบทละคร อ่านแป๊บเดียวจำได้หมดเลย ทุกอย่างอยู่ในหัวหมด แต่เดี๋ยวนี้ถ้าจะต้องมีถ่ายละครในตอนเช้าอีกวัน ขอโทษนะ จะต้องนอนท่องบททั้งคืน (หน้าเศร้า) ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้ เลยมีความรู้สึกเหมือนเสียความมั่นใจ ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการรู้สึกว่าไม่เคยเป็นภาระใคร ถ้าไปถ่ายละครแล้วถูกสั่งให้เทกอยู่ตลอดเวลาไม่เคยเป็นเลย ทุกอย่างจะต้องเป๊ะ

แต่เดี๋ยวนี้ต้องมานั่งท่องจำบท กลัวว่าถ้าต้องเล่นแล้วเทกบ่อยๆ ในกองเป็นการถ่วงเวลาของคนอื่น ซึ่งนักแสดงแต่ละคนก็จะบอกว่า แม่ไม่เป็นไรเลย คนอื่นไม่เป็นไร แต่เรารู้สึกว่าเป็นมาก แค่โดนเทกครั้งเดียว ก็รู้สึกว่าเสียกำลังใจไปหมดแล้ว เพราะเมื่อก่อนไม่เคยเป็น

เรียบเรียง สยามนิวส์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *